เริ่ม 1 มิ.ย. เปิดศาลนอกเวลาทำการ สาง 1.6 เเสนคดีค้างพิจารณา

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าจากที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม หรือ ก.บ.ศ. ซึ่งนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน ได้ออกประกาศเรื่องการบริหารจัดการคดีภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 (1) และมาตรา 17 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 ให้ศาลชั้นต้นทุกศาลเลื่อนนัดพิจารณาคดีจัดการพิเศษทุกคดี ที่นัดไว้ในระหว่างวันที่ 24 มีนาคม 63 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 63 โดยกำหนดวันนัดใหม่ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจากรายงานสถิติข้อมูลจำนวนคดี ที่เลื่อนนัดพิจารณาของศาลชั้นต้นทั่วประเทศยาวสุดในประวัติศาสตร์กว่า 1.6 แสนคดี เเละทางศาลยุติธรรมได้เตรียมโครงการ “เปิดศาลนอกเวลาราชการ”เพื่อช่วยเร่งระบายคดี ช่วยเหลือคู่ความรับความเป็นธรรม

นายสราวุธ กล่าวว่า ก.บ.ศ. ได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ดำเนินโครงการเปิดทำการศาลนอกเวลาราชการเพื่อเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาคดีประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2563 เพื่อสอดคล้องนโยบายผู้บริหารศาลยุติธรรมที่เน้นการพิจารณาพิพากษาคดีภายใต้หลักนิติธรรมให้เป็นไปอย่างเปิดเผยถูกต้องตามกฏหมายมีมาตรฐานที่ชัดเจนและเหมาะสมแก่ประเภทคดีสอดรับกับระบบและวิธีการจัดการงบประมาณ โดยการเบิกเงินค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการให้เบิกตามระยะเวลาที่ปฏิบัติงานจริงโดยคิดเป็นรายชั่วโมงหากปฏิบัติงานไม่ครบชั่วโมง เศษของชั่วโมงให้ปัดทิ้ง

โดยให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลชั้นต้นหรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแล้วแต่กรณีมีอำนาจอนุมัติให้ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการศาลยุติธรรมลูกจ้าง และพนักงานราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาเป็นผู้ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ  เเละให้ศาลที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณรายงานผลการดำเนินงานในแต่ละรอบดำเนินการตามแบบที่กำหนดภายในเวลาที่กำหนด โดยมีการสำรวจความพึงพอใจในการรับบริการของคู่ความและประชาชนที่มารับบริการตามโครงการตามแบบที่กำหนดโดยให้คู่ความและประชาชนเป็นผู้กรอกแบบสำรวจและจัดส่งสรุปผลคะแนนความพึงพอใจจากการสำรวจดังกล่าว และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงการเปิดทำการศาลนอกเวลาราชการเป็นการล่วงหน้า