5 คำถามคาใจ ว่าด้วยประกันสุขภาพ

ทำ ‘ประกันสุขภาพ’ ดีไหม, เลือกทำประกันหรือเก็บเงินไว้ก่อนดี, บริษัทมีสวัสดิการอยู่แล้วจำเป็นต้องเพิ่มอีกไหม และอีก ฯลฯ คำถามคาใจ ที่คุณต้องคิดถึงทุกครั้งเมื่อถึงคราวต้องเจียดเงินซื้อประกัน

หากวัยทำงานอย่างเราคุ้นเคยกันดีกับการทำประกันสังคม ซึ่งให้สิทธิในการรักษาพยาบาล ช่วยดูแลความเสี่ยงที่เกิดจากอาการ เจ็บป่วย เสียชีวิต ทุพพลภาพ ความเสี่ยงด้านสุขภาพ การคลอดบุตร

แต่ถึงเช่นนั้นเมื่อคุณอายุมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีทางเลือกที่มากกว่าเก่า รวมถึงเริ่มมีครอบครัว คำถามต่อมาคือสิทธิที่คุณได้รับตามที่เป็นอยู่นี้เพียงพอหรือไม่  และถ้าคุณยังไม่แน่ใจคำตอบ เรามี 5 คำถามด้านล่างที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังสงสัย และน่าจะช่วยให้คุณต่อจิ๊กซอว์กับสิ่งที่เรียกว่า ‘ประกันสุขภาพ’ ได้

• ประกันสุขภาพคืออะไร

‘ประกันสุขภาพ’ คือ การประกันภัยที่บริษัทประกันภัยตกลงที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่จากการรักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัย (ผู้ซื้อ ซึ่งก็คือคุณนั่นเอง) ไม่ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นจะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยจากโรคภัย หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุให้แก่ผู้เอาประกันภัย ซึ่งในรายละเอียดกรมธรรมภ์ แต่ละแบบก็แตกต่างกันไป

เช่น ประกันสุขภาพแบบเพื่อรักษา ในกรณีที่เราเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยนอก, แบบผู้ป่วยใน

ประกันภัยแบบที่ดูแลเรื่องอุบัติเหตุ ในกรณีนี้ประกันจะมีผลต่อเมื่อเราได้รับอุบัติเหตุและต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

ประกันแบบที่สูญเสียความสามารถหรือ หรือประกันภัยแบบชดเชยรายได้ ที่ช่วยการันตีวงเงินที่คุณจะได้ยามที่ต้องเข้ารักษาตัว

• มีประกันสังคมอยู่แล้ว จ่ายเงินประกันสุขภาพไปเพื่ออะไร

ในวัยทำงาน ทุกคนคงรู้จักการหักเงินเข้าประกันสังคมเป็นอย่างดี โดยการหักเงินในแต่ละเดือนเป็นการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตให้แก่ผู้ประกันตนที่มีรายได้และมีอายุตั้งแต่ 15 – 60 ปี ซึ่งจะได้รับประโยชน์ทดแทนเมื่อต้องประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ และเมื่อถึงคราวเจ็บป่วย ประกันสังคมจะดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาล

หากแต่คำถามคืออย่างที่เอ่ยไปตอนแรกว่า สิทธิในการได้รับจาก 'ประกันสังคม' เพียงพอสำหรับคุณหรือไม่  เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ของโรงพยาบาลที่รักษาตัว ซึ่งประกันสังคมกำหนดกรณีผู้ป่วยใน ค่ารักษาพยาบาลจะจ่ายให้วันละไม่เกิน 2,000 บาท ค่าห้องค่าอาหารไม่เกินวันละ 700 บาท หรือการใช้สิทธิในสถานพยาบาล ประกันสังคมนั้นผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิได้เฉพาะโรงพยาบาลที่ได้เลือกไว้เท่านั้น เว้นแต่เป็นการเจ็บป่วยขั้นฉุกเฉินจริงๆ จึงจะสามารถใช้สิทธิในโรงพยาบาลอื่นได้

ซึ่งการได้รับสิทธิจาก 'ประกันสุขภาพ' จะช่วยยกระดับได้มากกว่าในเรื่องนี้ เพราะผู้ทำประกันสามารถเลือกเข้ารับการรักษาสถานพยาบาลที่อยู่ในข่ายของบริษัทประกัน ซึ่งกระจายอยู่ในทุกพื้นที่

• ประกันสุขภาพต่างจากประกันชีวิตอย่างไร

แค่ชื่อก็ต่างกันแล้ว และถ้ามองจุดประสงค์ของประกันก็ยิ่งต่างกันเข้าไปใหญ่ ประกันชีวิตคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตเท่านั้นเป็นหลักประกันให้กับครอบครัวในกรณีที่ผู้ทำประกันเสียชีวิต การสร้างความอุ่นใจและความมั่นคงให้กับคนในครอบครัว ให้มีเวลาตั้งหลัก มีเงินก้อนใช้จ่าย ไม่ลำบากในช่วงที่ต้องสูญเสียเสาหลัก หรือสมาชิกครอบครัวคนใดคนหนึ่งไป

ส่วนประกันสุขภาพคุ้มครองกรณีที่ผู้เอาประกันเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ ตามแต่เงื่อนไขในสัญญา มีเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเวลาที่ต้องรักษาตัวจากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องนำเงินเก็บออมส่วนอื่นๆ ที่เก็บเพื่อให้ตนเองและครอบครัว มาใช้ในการรักษาพยาบาล ดังนั้นเมื่อเรามั่นใจว่าในการรักษาพยาบาลแต่ละครั้งจะสบายใจเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว เราจะได้ใช้เงินออมเพื่อสร้างความมั่งคั่งในเรื่องอื่นๆ

• ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไหม

ผู้ที่ทำประกันสุขภาพให้ตัวเอง สามารถนำเบี้ยไปหักลดหย่อนภาษี ได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี แต่กรณีทำประกันสุขภาพ ร่วมกับประกันชีวิตทั่วไปหรือเงินฝากแบบมีประกันชีวิต ต้องไม่เกิน 100,000 บาท/ปี

• มนุษย์เงินเดือน ทำประกันสุขภาพแบบไหนคุ้มสุด

ถึงตรงนี้ไม่มีใครตอบแทนคนอื่นได้ เพราะความคุ้มค่าเป็นลักษณะเฉพาะตัวแบบของใครของมัน แต่หลักของการเลือกซื้อประกันคือการพิจารณาจากเบี้ยประกัน กับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ แล้ววิเคราะห์ออกมาว่าระดับราคาที่คุณต้องจ่ายไปได้อะไรกลับมาบ้าง

สิ่งที่เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา ได้แก่ ปัจจัยวงเงินคุ้มครองที่ต้องมีวงเงินที่ครอบคลุมหลายๆโรค เพราะแม้คุณจะมีประกันสุขภาพ เเต่ถ้าค่ารักษาทั้งหมดของคุณไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น คุณก็ต้องจ่ายส่วนต่างตรงนี้ เช่นเดียวกับปัจจัยด้านสถานพยาบาลซึ่งต้องมีการระบุโรงพยาบาลในเครือข่ายที่หลากหลาย จะได้ครอบคลุมความเสี่ยงด้านสุขภาพทุกพื้นที่

อย่าลืมว่าการเจ็บป่วยเเต่ละครั้งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมากมาย เช่น ค่าห้องรักษา ค่าผ่าตัด ค่าใช้จ่ายตลอดการพักฟื้นของคุณ หรือการเจ็บป่วยธรรมดาที่ไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือเป็นเเค่การรักษาตัวในคลินิก คุณจึงต้องเลือกประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยใน (IPD) ที่รักษาที่โรงพยาบาล เเละผู้ป่วยนอกที่ไม่ได้นอนพักฟื้นในโรงพยาบาล (OPD) จะได้ครอบคลุมตั้งเเต่ป่วยเล็กน้อยจนถึงโรคร้ายเเรง

สิ่งที่ต้องบันทึกไว้สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการทำประกันสุขภาพ นั่นคือเมื่อคุณได้ซื้อประกันสุขภาพเรียบร้อย คุณต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันตามสัญญา ฉะนั้นเงินค่าเบี้ยประกันที่คุณต้องจ่ายทุกเดือน หรือทุกปี ควรเป็นจำนวนเงินที่ไม่เดือดร้อนกับค่าใช้จ่ายหลัก เพราะความอุ่นใจจากการทำประกันสุขภาพไม่ควรส่งผลกระทบถึงการเงินของเราด้วย

ทั้งหมดคือแนวทางของการตัดสินใจและการตอบคำถามที่ยังคาใจว่าด้วยการทำ ‘ประกันสุขภาพ’  ตัวช่วยที่จะแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในยามเจ็บป่วย ทั้งยังช่วยให้เราสามารถวางแผนที่จะนำเงินออมไปลงทุนในเรื่องอื่นๆได้

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพได้ที่นี่ คลิก