ภาคกลางแชมป์ฝ่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วไทยแห่ตั้งตู้ปันสุข

ภาคกลางแชมป์ฝ่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วไทยแห่ตั้งตู้ปันสุข

ศปก.ตร. สรุปยอดผู้ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 686 ราย ภาคกลางสูงสุด ปทุมธานี 126 ราย ด้านภูเก็ต คุมเข้มเดินทางข้ามจังหวัด ผลตรวจ 20 ตร.ป่าตองไร้เชื้อโควิด - 4 รายรอผล ขณะที่ตู้ปันสุขผุดทั่วไทย

มาตรการป้องกันและสกัดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด19 วานนี้ (11 พ.ค.) ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ได้สรุปยอดผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10-11 พ.ค. เวลา 04.00 น. โดยตำรวจได้ตรวจค้นบุคคล รวม 26,852 ราย และยานพาหนะ รวม 20,792 คันจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้ รวม 686 ราย ประกอบด้วย ผู้ออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันควร 597 ราย ตักเตือน 41 ราย ดำเนินคดี 556 ราย ประกอบด้วย ขับหรือขี่ยานพาหนะเล่น 90 ราย เดินทางกลับที่พักหลังเวลาเคอร์ฟิว 148 ราย ออกมาทำธุระ 184 ราย และอื่นๆ 175 รายรวมตัวมั่วสุมในเคหสถานเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ รวม 89 ราย แบ่งเป็น ดื่มสุรา 49 ราย เสพยาเสพติด 16 ราย ลักลอบเล่นการพนัน 18 ราย และอื่นๆ 6 ราย

ทั้งนี้ จังหวัดที่มีสถิติการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กรณีออกนอกเคหสถานสูงสุด ในภาคกลางได้แก่ จ.ปทุมธานี 126 ราย ภาคตะวันตก ได้แก่ จ.ราชบุรี 106 ราย ภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ระยอง 63 ราย

สำหรับผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ภูเก็ตออก3มาตรการผ่อนปรน

ส่วนจังหวัดต่างๆอาทิจังหวัดสำคัญอย่างจ.ภูเก็ตซึ่งล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่ถึง 4 คนนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตรายงานว่าตั้งแต่วันที่5ม.ค.– 10พ.ค.จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19แล้วจำนวน224รายขณะเดียวกันจังหวัดภูเก็ตได้ผ่อนปรนให้เปิดร้านอาหารทั่วไปร้านเครื่องดื่มขนมหวานไอศกรีม(นอกห้างสรรพสินค้า)ร้านอาหารริมทาง/รถเข็น/หาบเร่/ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวกซื้อในบริเวณพื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหาร

ไม่รวมถึงสถานบริการผับบาร์โดยเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้ากินร้อนช้อนกลาง(ส่วนตัว)ล้างมือบ่อยๆและเว้นระยะห่าง1 – 2เมตรหากพบว่ามีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ไอน้ำมูกเจ็บคอจมูกไม่ได้กลิ่นหายใจเร็วหายใจเหนื่อยหายใจลำบากมีไข้หรือไม่มีไข้ก็ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด19ได้ทันที

ด้านนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตได้พิจารณาบุคคลที่มีความจำเป็นซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดและไม่สามารถดำรงชีพได้เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนทางเศรษฐกิจเป็นการเฉพาะกลุ่มเฉพาะรายซึ่งเป็นไปตามข้อ5แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา9แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ทั้งนี้เพื่อมิให้มีการฝ่าฝืนการออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา22.00-04.00น.ของวันรุ่งขึ้นจึงกำหนดให้ผู้ประสงค์เดินทางออกนอกจังหวัดเพื่อกลับภูมิลำเนาเดินทางถึงด่านตรวจภูเก็ต(ด่านท่าฉัตรไชย)ก่อนเวลา19.00น.พร้อมทั้งจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจำนวน3ฉบับสำหรับการเดินทางออกนอกจังหวัดภูเก็ตดังนี้

1.หนังสือแจ้งเดินทางข้ามเขตจังหวัดเพื่อกลับภูมิลำเนา 2.เอกสารรับรองการผ่านการคัดกรองจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต 3.เอกสารรับรองผ่านกระบวนการแยกกัก/กักกัน/คุมไว้สังเกตจนครบกำหนดระยะเวลาเพื่อแสดงตัวต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกรณีจำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด

20ตร.ป่าตองไร้โควิด-4คนรอผล

ขณะเดียวกันจากกรณีมีรายงานพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ป่าตอง อายุ 29 ปี ติดเชื้อโควิด-19 และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการสัมผัสใกล้ชิดและเสี่ยงจะติดเชื้อโควิด-19จำนวน 24 นาย พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ผกก.สภ.ป่าตอง ได้แจ้งผลการตรวจหาเชื้อโควิดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 24 นายรับทราบ โดยปรากฏว่าผลการตรวจหาเชื้อออกมาแล้วจำนวน20 นาย ซึ่งทั้งหมดมีผลเป็นลบ ส่วนอีก 4 ราย ยังอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าผลตรวจจะเป็นลบ แต่ทางสถานีตำรวจป่าตองก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 24 นายไปกักตัวที่ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดหลังจากนี้อีก 7 วัน จะมีการตรวจซ้ำอีกครั้ง

“ตู้ปันสุข”ผุดทั่วประเทศ

นอกจากนี้บรรยากาศในพื้นที่ต่างๆหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ใจบุญ ได้มีการจัดจุดตั้ง “ตู้ปันสุข” แจกจ่ายข่าวสารอาหารให้แก่ประชาชน ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

อาทิ ที่ จ.สงขลานายสุรพงศ์ และนางอังศณา สุรปภา เจ้าของร้านโปรเทคนิค สองสามีภรรยานำตู้ปันสุขหรือตู้แบ่งปันอาหารเป็นแบบตู้กับข้าว มาวางไว้หน้าร้านพร้อมกับใส่อาหารเอาไว้ภายในตู้หลายหลากชนิดเช่น บะหมี่สำเร็จรูป ขนม น้ำและของกินต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่ผ่านไปมาได้หยิบไปบริโภค และให้ผู้ที่ใจดีมาใส่ตู้

ที่อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลายจุดได้นำตู้มาตั้งพร้อมใส่เครื่องอุปโภค-บริโภค ข้าวสาร น้ำดื่ม อาทิที่ธนาคารกรุงไทย สาขาห้าแยกโคกมะตูม เป็นวันแรกที่ตั้งตู้แบ่งปันหน้าธนาคาร และใกล้กันบริเวณห้าแยกโคกมะตูม ร้านป.เจริญพันธ์ ร้านจำหน่ายข้าวสาร ได้นำข้าวสาร ปลากระป๋อง แพคใส่ถุงไว้ เขียนป้ายให้ประชาชนได้หยิบได้คนละ 1 ชุด

เช่นเดียวกับที่ร้านพฤกษาชาติ 1 ข้างโรงแรมท็อปแลนด์ ภาคประชาชนที่รวมตัวกันบนโลกโซเชียลทำตู้ส่งต่อพิษณุโลก โดยจุดนี้ได้เตรียมกระดาษไว้ให้กับผู้มามอบและรับของได้เขียนบรรยายความรู้สึกแปะติดที่ตู้ด้วย ผู้มารับของส่วนใหญ่ เขียนคำขอบคุณ บางรายนำดอกกุหลาบมาวางไว้

ที่บริเวณหน้าศูนย์โตโยต้าชัวร์ขอนแก่น ริมถนนมิตรภาพ ที่ได้นำเอาตู้กับข้าวมาตั้งไว้เพื่อใช้เป็น “ตู้ปันสุข” ซึ่งพบว่าตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีประชาชนที่ใจบุญต้องการแบ่งปันอาหารให้กับผู้ที่กำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทยอยนำอาหาร เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนม ผลไม้ รวมทั้งน้ำดื่ม มาใส่ไว้ในตู้ให้ผู้ที่ต้องการนำไปทานได้ฟรี แต่ขอความร่วมมือให้หยิบเอาแต่พอทานและหากใครที่มีก็เชิญชวนให้มาร่วมแบ่งปันด้วย

รุมประณามกวาดของเกลี้ยงตู้

ที่ร้าน Laundry Express ศูนย์บริการซัก อบ รีด ซักแห้งอ.เมือง จ.ชลบุรี ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลังนางเบญจวรรณ์ สุวานิชย์ ผู้ช่วยดำเนินงานของสมาชิกวุฒิสภา น.ส.วิไลลักษณ์ อรินทมะพงษ์ได้มีการตั้งตู้ปันน้ำใจ พร้อมทั้งนำข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่สำเร็จ ปลากระป๋อง ผักกาดกระป๋อง เพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก

แต่กลับมีชาวบ้านมาเป็นกลุ่มกวาดสิ่งของต่างๆ เอาไปจนหมดทำให้ผู้ที่มาทีหลังไม่สามารถหยิบอาหารได้

โดยนางเบญจวรรณ์กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นพบมีผู้มา 2 กลุ่ม กลุ่มแรกขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน เตรียมถุงมาพร้อมแล้วหยิบฉวยสิ่งของไปจนหมด ตนเองเอามาเติมอีกพบมีอีกกลุ่มหนึ่ง รถจักรยานยนต์ 5 คัน มาด้วยกันประมาณ 10 คน เตรียมถุงมาเหมือนกันหอบสิ่งของไปหมดเช่นกัน

นอกจากนี้ชื่อ Suphak Chaiyanate ได้โพสต์ข้อความลงในเพจ กินไรดี ศรีราชา พร้อมกับภาพเป็นคลิปวีดิโอ ขณะมีประชาชน เดินเข้ามาแย่งกันหยิบสิ่งของภายในตู้ปันน้ำใจ ขณะเดียวกันมีรถยนต์คันหนึ่ง ขับขี่มาจอด แล้วมีคน 3 คน เดินลงมาจากรถ ก่อนที่จะเดินไปแย่งกันหยิบสิ่งของภายในตู้ หลังจากนั้นได้รีบขึ้นรถยนต์ ขับขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังเกิดเหตุเจ้าของตู้ได้ย้ายตู้ดังกล่าวไปไว้ใกล้กับกล้องวงจรปิดหน้าร้านไฮเดน ปริ้น แอน มีเดีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับร้านศูนย์นักเรียนกรุ๊ป ซึ่งจำหน่ายอุปกรณ์ทางการศึกษา เนื่องจากมีกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพผู้ผ่านไปมาได้อย่างชัดเจน