'สนธิรัตน์' จ่อเพิ่มมาตรการอุ้มโรงกลั่นน้ำมัน

'สนธิรัตน์' จ่อเพิ่มมาตรการอุ้มโรงกลั่นน้ำมัน

"สนธิรัตน์" ประเมินยอดใช้น้ำมัน พ.ค.ก่อนเคาะเพิ่มอุ้มโรงกลั่น-ผู้ค้าน้ำมัน หลังโควิด-19 ฉุดไตรมาส 1 ขาดทุนสต็อกหลายหมื่นล้านบาท

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์การใช้น้ำมันเดือน พ.ค.นี้ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบต่อผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันและผู้ค้าน้ำมัน หลังไตรมาส 1 ที่ผ่านมาผู้ประกอบการมีปัญหาขาดทุนสต็อกน้ำมัน (stock loss) มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท อันเป็นผลสืบเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในประเทศและหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ยอดการใช้น้ำมันหายไปมาก กดดันให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดต่ำลงในรอบกว่า 30ปี

ทั้งนี ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานมีมาตรการบรรเทาผลกระทบดังกล่าว โดยลดสำรองน้ำมันดิบผู้ค้าและโรงกลั่นเหลือ 4% (เท่ากับสำรองน้ำมัน 15 วันครึ่ง ) เป็นเวลา 1 ปี (1 พ.ค.2563-30 มิ.ย.2564) จากเดิมต้องเก็บสำรอง 6% (เท่ากับสำรองน้ำมัน 21 วันครึ่ง) ของการจำหน่าย และหลังจากนั้นการสำรองน้ำมันดิบจะต้องกลับขึ้นมาอยู่ที่ 5% (เท่ากับสำรองน้ำมัน 18 วัน) ของการจำหน่าย

ดังนั้น ขอติดตามผลจากการลดสต็อกน้ำมันเหลือ 4% ในเดือน พ.ค.นี้ ก่อน โดยหากมาตรการยังไม่เพียงพอก็พร้อมหารือแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการฯ เพิ่มเติม และพร้อมปรับมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงต่อไปด้วย

"เราดำเนินการลดสำรองไปเหลือ 4% แล้ว แต่หากสถานการณ์การใช้น้ำมันและสต็อกยังไม่กระเตื้องขึ้นก็เป็นสถานการณ์ที่ต้องการมาหารือกันว่าจะปรับอย่างไรก็ต่อ ขณะนี้ยังเร็วเกินไปหากจะให้ลดสำรองเพิ่ม" 

ทั้งนี้ กลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ได้ทยอยรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 (ม.ค.-มี.ค2563) ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 1/63 ขาดทุน 8,904.9 ล้านบาท ลดลง 5,924% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 152.9 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงแรงและยอดขายที่ลดลง

ขณะที่บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP สรุปผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 1/63 มีผลขาดทุนสุทธิ 13,754 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,408 ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนสต็อกน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน

และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC สรุปผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 1/63 ขาดทุนสุทธิ 8,784 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 6,442.65 ล้านบาท เป็นผลจากการขาดทุนสต็อกน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น