หุ้นCBGราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 8.97%หลังโบรกเชียร์ซื้อ เหตุ คาดงบปีนี้โตดี

หุ้นCBGราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 8.97%หลังโบรกเชียร์ซื้อ เหตุ คาดงบปีนี้โตดี

หุ้นCBGราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 8.97% หรือ 7 บาท อยู่ที่ 85 บาทต่อหุ้น หลังประกาศกำไรไตรมาส1/63 ที่ 801 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ด้านบล.หยวนต้า คาดผลกำไรปีนี้อยู่ที่ 3.17 พันล้านบาทโต 33%จากปีก่อน เชื่อไตรมาส1/63ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของปีนี้


ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ CBGช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.97% หรือ 7 บาท อยู่ที่ 85 บาทต่อหุ้น หลังประกาศงบกำไรไตรมาส1/63 กำไรสุทธิ 801 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.9%จากช่วงเดียวกันปีก่อน

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุ รายได้ไตรมาส1ปี 2563 CBG อยู่ที่ 4,061 ลบ. เพิ่มขึ้น 3%จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น21%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำระดับสูงสุดใหม่ เป็นเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ตัวเอง 3,414 ลบ. เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นสัดส่วนรายได้ในประเทศต่อต่างประเทศที่ 37 % และ 63% ตามลำดับ เนื่องจากยอดขายในต่างประเทศเติบโตถึง 30%จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากรายได้ใน CLMV ทำ New high ที่ 1,969 ลบ. และเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน และ 36% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการเติบในกัมพูชา และเมียนมาร์ รายได้ในจีนอยู่ที่ 66 ลบ. เติบโต 27% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ว่ามีผลกระทบจาก COVID-19 ก็ตาม ขณะที่รายได้ในประเทศชะลอลง 1%จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ส่วนตลาดรวมเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศเติบโต 1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนถือว่าเป็นบวกเนื่องจากส่วนต่างการชะลอของรายได้เครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศของ CBG เทียบกับตลาดรวมเริ่มแคบลง นอกจากนี้รายได้จากการรับจ้างผลิตเติบโตถึง 64% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น(GPM)อยู่ที่ 42.4% เพิ่มขึ้นจาก 40.9% ในไตรมาส4/62 และ 35.4% ในไตรมาส1/62 และดีกว่าคาดไว้ที่ 41.5% และเป็นระดับ GPM ที่ทุบสถิติสูงสุดใหม่ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 801 ลบ. ขณะที่กำไรปกติอยู่ที่ 775 ลบ. เพิ่มขึ้น5% จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 90.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ดีกว่าคาด 9% และทำระดับสูงสุดใหม่

ทั้งนี้บริษัทมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ CBG และเชื่อว่าไตรมาส1/63 ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของปี ขณะที่ผลกระทบจาก COVID-19 ยังจำกัด ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/63 เราคาดว่ามีโอกาสที่กำไรปกติอาจอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนที่ราว 700 ลบ.แต่ยังเติบโตราว 32 –35%จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจาก คาดยอดขายในจีนจะเติบโต เทียบกับไตรมาสก่อน มีรายได้จากเครื่องดื่ม C+LOCK ที่รับรู้รายได้เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก ช่วยลดผลกระทบรายได้ที่ชะลอลงเทียบกับไตรมาสก่อน แต่หนุนรายได้โตมากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน และได้ประโยชน์จากฤดูร้อน ในทางกลับกันการเริ่มผ่อนคลาย Lockdown ช่วยลดอัตราการชะลอลงของรายได้ จากไตรมาสก่อน

ส่วนกำไรปกติไตรมาส1/63 คิดเป็นสัดส่วน 24% ของประมาณการกำไรทั้งปีของบริษัท จึงคงประมาณการกำไรปี 2563 ที่ 3,179 ลบ. เติบโต 33% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คงราคาเป้าหมายที่ 92.00 บาท และคงคำแนะนำ ซื้อ โดยราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2563 ต่ำเพียง 24.5 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลทั้งปี 2563 ที่ 2.6% (คาดเงินปันผลที่ 2.07 บาท/หุ้น)