รีบาวด์ตามเพื่อนบ้าน

รีบาวด์ตามเพื่อนบ้าน

คาดดัชนีจะสลับอ่อนตัวลงจากแรงขายลดความเสี่ยงในช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ 1Q20 ซึงคาดว่าหลายบริษัทฯจะหดตัวลงทั้ง qoq และ yoy

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

SET วันก่อนปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,266 จุด (+8.04 จุด) หรือ +0.64% ด้วย Volume ซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดีดตัวขึ้นตอบรับความคาดหวังจีนและสหรัฐจะเจรจาเพื่อยุติ Tradewar เฟส 1 ในสัปดาห์หน้า รวมถึงศบค.เตรียมผ่อนปรน Lockdown เฟส 2 ในวันที่ 17 พ.ค. ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม PETRO , COMM , ENERG และ ETRON หนุนดัชนีปิดแดนบวก  ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,284 ล้านบาท  , Net Long TFEX SET50 8,848 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,023 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นกลาง-บวกคาด SET รีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,275 – 1,280 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว โดยภาวะตลาดได้ sentiment เชิงบวกจากการหารือเบื้องต้นระหว่างสหรัฐ-จีนเป็นบวกโดยทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมมือกันเพื่อสร้างบรรยากาศการค้าให้เป็นไปตามข้อตกลงเฟสแรก  รวมถึงความคาดหวังว่าภาวะเศรษฐกิจจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนเม.ย.ปรับตัวลงน้อยกว่าคาด รวมถึงยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ของสหรัฐปรับตัวลดลงสู่ระดับ 2 หมื่นราย นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนภายในจากศบค.เตรียมผ่อนปรน Lockdown เฟส 2 ในสัปดาห์นี้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะสลับอ่อนตัวลงจากแรงขายลดความเสี่ยงในช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบ 1Q20 ซึงคาดว่าหลายบริษัทฯจะหดตัวลงทั้ง qoq และ yoy

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มค้าปลีก (CRC, CPN, HMPRO, GLOBAL, COM7ม DOHOME) อานิสงส์ศบค.เตรียมผ่อนปรนมาตรการ Lockdown เฟส 2
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q20 จะปรับตัวขึ้น (CPF, IVL, BCPG)
  • กลุ่มที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ (ประกาศ 12 พ.ค.)  KTC  AWC  TOA
  • กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC, SPRC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นหลังโอเปกพลัสเริ่มลดกำลังการผลิตลง

หุ้นแนะนำวันนี้

  • KTC (ปิด 33.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 35.5) เป็นตัวเต็งที่คาดว่าจะได้ปรับเข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่ ประกาศผล 12 พ.ค. นี้ อีกทั้งยังมี Sentiment บวกจากที่ภาครัฐเตรียมปลดล็อกกิจกรรมเศรษฐกิจในเฟสที่ 2 อาทิ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก และวัสดุก่อสร้าง คาดหนุนยอดใช้บัตรเครดิดของ KTC เพิ่มขึ้น
  • PTTGC (ปิด 38.5 ซื้อ/เป้า 50 บาท) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว, หลายประเทศคลาย lockdown จะช่วยเพิ่มดีมานด์ทั้งฝั่งปิโตรฯและโรงกลั่น นอกจากนี้ PTTGC ยังได้เปรียบด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งเพราะ PTTGC ใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบราคาจะปรับขึ้นช้ากว่านาฟทาซึ่งราคาจะปรับขึ้นตามราคาน้ำมันทันที 

บทวิเคราะห์วันนี้

ADVANC (ปิด 193.5 ซื้อ/เป้าใหม่ 230 เดิม 244), INTUCH (ปิด 53 ซื้อ/เป้าใหม่ 74 เดิม 78), MAKRO (ปิด 36.25 ถือ/เป้า 37.2), PTTGC (ปิด 38.5 ปรับเป็นซื้อ/เป้าใหม่ 50 เดิม 32), RS (ปิด 10.2 ซื้อ/เป้าใหม่ 12 จาก 11), TOP (ปิด 43.25 ซื้อ/เป้า 48), Property sector (Top pick: LH)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ดาวโจนส์พุ่งแรง 455 จุด สวนทางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวัง Trade war จีนกับสหรัฐคลี่คลาย : ตลาดแรงงานสหรัฐยังอ่อนแอเมื่อวันศุกร์สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน เม.ย. ลดลง 20.5 ล้านตำแหน่ง มากสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นเป็น 14.7% อย่างไรก็ตามดัชนีดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ยังพุ่งแรงอีก 455 จุด (+1.91%) ปิดที่ระดับ 24,331 จุด เนื่องจากตลาดมีความหวังเชิงบวกว่าปัญหา Trade war ระหว่างจีนกับสหรัฐจะคลี่คลายลง หลังจากการประชุมร่วมกันทางโทรศัพท์ของนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ออกมาเป็นบวก ทั้ง 2 ประเทศพร้อมร่วมมือปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้า
  • (+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - ราคาน้ำมันดิบบวกต่อ ตอบรับจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐปรับลดลงอีกในสัปดาห์ที่ผ่านมา : หุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมันยังได้ Sentiment เชิงบวกต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นอีก 1.19 ดอลลาร์ (+5.1%) ปิดที่ระดับ 24 .74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รับข่าวสหรัฐรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่มีการใช้งานลดลงอีก 34 แท่น สู่ระดับ 374 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ตลาดยังมีปัจจัยหนุนอื่นๆ อาทิ จีนนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น และคาดหวังอุปสงส์น้ำมันดิบฟื้นตัวหลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการ lockdown
  • (+) ผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ในไทยยังต่ำกว่า 10 คนต่อวัน เอื้อให้ภาครัฐปลดล็อกกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเฟสที่ 2 : สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในไทยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดย ศบค.รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในไทยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 4 รายในวันเสาร์ และ 5 รายในวันอาทิตย์ ทำให้เป็นไปได้ว่าในสัปดาห์นี้ภาครัฐจะสามารถประกาศปลดล็อกกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเฟสที่ 2 เบื้องต้นคาดว่าจะผ่อนคลายให้กับกลุ่มธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าปลีก และร้านวัสดุก่อสร้าง ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกโดยตรง ต่อ CPN, CRC, BJC, CPALL, HMPRO, GLOBAL, DOHOME และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอาทิ COM7 JMART และ KTC