กลุ่มพลังงานและโรงกลั่นพื้นฐานอ่อนแอลง แต่อาจถูกเก็งงบผ่านขาดทุนสต็อคสูงสุด

กลุ่มพลังงานและโรงกลั่นพื้นฐานอ่อนแอลง แต่อาจถูกเก็งงบผ่านขาดทุนสต็อคสูงสุด

มองเทรดดิ้งในกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น

ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงเล็กน้อยในวันศุกร์ แต่โดยรวมถือเป็นการปรับตัวขึ้น 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง จากมุมมองเชิงบวกของการกลับมาเปิดเมืองและเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงคาดการณ์ความต้องการน้ำมันที่จะปรับดีขึ้นจากการฟื้นตัวของการเดินทางและภาคการผลิต ทั้งนี้มุมมองเชิงปัจจัยพื้นฐานของกลุ่มอ่อนแอลง แต่ประเมินได้รับแรงส่งจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น และผลขาดทุนสต็อคที่น่าจะสูงสุดแล้วในช่วงไตรมาส 1/63 ประกอบกับหุ้นส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่ปรับขึ้นน้อย (Laggard) กว่าตลาดโดยรวม ทำให้มีโอกาสฟื้นตัว แต่เราประเมินเป็นเพียงการเก็งกำไรในช่วง 1 เดือนเท่านั้น โดยอาจเลือกเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนใน TOP, PTTGC, ESSO, PTT

ศบค.เตรียมผ่อนคลายระยะที่สอง โดยจะมีการรับฟังความเห็น 8-10 พ.ค. และประเมินผลระยะที่ 1 ในวันที่ 13 พ.ค. ขณะที่อาจมีการทดลองเปิดห้างสรรพสินค้าในบางพื้นที่ระหว่าง 14-15 พ.ค. เพื่อประเมินมาตรการและแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม ก่อนที่จะประกาศผ่อนคลายระยะที่สอง ในวันที่ 17 พ.ค. ทั้งนี้การจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ รวมถึงความเสี่ยงจากการที่จะต้องปรับลดค่าเช่าให้ผู้เช่า เนื่องมาจากการต้องปฏิบัติตามแนวทางควบคุมการติดต่อ ทำให้มีแนวโน้มที่หุ้นในกลุ่มจะถูก sell on fact ได้

ประเด็นการ เก็งกำไร 1) การปรับหุ้นตามดัชนี MSCI ที่คาด AWC, KTC และ TOA มีโอกาสเข้าคำนวณ 2) กลุ่มประกันภัย สถานการณ์โควิดที่คลี่คลายทำให้การขายประกันช่วงก่อนหน้าคาดทำกำไรอย่างสูง บวกต่อ TIP และ THRE 3) ค่าระวางเรือขนส่งน้ำมันที่ลดลงเร็ว คาดส่งผลบวกต่อค่าการกลั่น และกลุ่มโรงกลั่น TOP, ESSO, SPRC 4) การเปิดเมืองส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มห้างสรรพสินค้าและพื้นที่เช่า CRC, CPN, AWC, MBK, SF แต่ระวัง sell on fact ช่วงสั้น

ภาพรวมกลยุทธ์ เข้าสู่ช่วงผันผวนจากการประกาศงบ การเก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง โดยโรงกลั่นและประกันภัยเป็นบวก // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  TOP, STA*, CPALL*, ACE*

แนวรับ 1,250 / แนวต้าน : 1,275-1,290 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

ทรัมป์เตรียมอัดเงิน $3 พันล้าน อุ้มภาคเกษตร – ทรัมป์เตรียมฉีดเงิน $3 พันล้าน ซื้อผลิตภัณฑ์นม เนื้อ สัตว์ และผลผลิตการเกษตรต่างๆ จากเกษตรกรชาวสหรัฐฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากเหตุแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19

PBOC ประกาศเดินหน้าอุ้มเศรษฐกิจ – ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศเดินหน้านโยบายการเงินทั้งในเชิงปริมาณและโครงสร้างเพื่อรักษาสภาพคล่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเพียงพอ โดยจะให้ความสำคัญกับกี่ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่แท้จริงมากขึ้น

US NFP ดิ่งหนักสุดเป็นประวัติการณ์ – กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน เม.ย. ดิ่งลง 20.5 ล้านตำแหน่ง ย่ำแย่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

ทรัมป์เจอคดีใหม่ – ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ กำหนดพิพากษาคดีการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการเริ่มสอบสวนในวันอังคาร

ยอดบัตรเครดิต สินเชื่อ หดแรง – บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล หดตัว 3 เดือนต่อเนื่อง เหตุประชาชนหยุดการใช้จ่ายรับพิษไวรัสแพร่ระบาด

EASTW ลดค่าน้ำ – ให้กปภ.เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.63) ในอัตรา 1.5% และสำหรับพื้นที่ประปาสัตหีบที่จำหน่ายให้แก่ประชาชน 20% คิดเป็นเงิน 5.27 ล้านบาท

THREรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 ขาดทุน 78 ล้านบาท โดยหลักมาจากการปรับตัวลดลงของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้มูลค่าเงินลงทุนลดลง ประกอบกับผลจากการใช้มาตรฐาน IFRS9 ซึ่งกระทบต่อมูลค่ายุติธรรมราว 98 ล้านบาท แต่หากมองที่เบี้ยประกันภัยต่อรับสุทธิที่เติบโตขึ้น 15% QoQ และ 12% YoY เราประเมินบริษัทยังคงอยู่ในทิศทางฟื้นตัว

 

ประเด็นติดตาม: 12 พ.ค. – US CPI เดือน เม.ย., 13 พ.ค. – OPEC monthly report / UK GDP 1Q63, 15 พ.ค. – EU GDP 1Q63

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)