ลุ้นปลดล็อกดาวน์สัปดาห์นี้

ลุ้นปลดล็อกดาวน์สัปดาห์นี้

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลดลงกว่า 35.64 จุด คล้ายกับตลาดหุ้นโลก แม้แนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะดีขึ้น

อย่างไรก็ดี แนวโน้มสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ปธน. ทรัมป์ อาจยกเลิกข้อตกลงการค้าเฟสแรก หากจีนไม่ทำตามข้อตกลงการซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ขณะที่ วันศุกร์ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,266.02 จุด (+8.04 จุด) Volume 4.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,284.23 ลบ. TFEX Net +8,848 สัญญา ตราสารหนี้ +2,023 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 455.43 จุด +1.91% ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ร่วงน้อยกว่าคาด และผู้แทนการค้าสหรัฐและจีนหารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรก สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ +2.6%

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 1.19 ดอลลาร์ +5.1% ปิดที่ 24.74 ดอลลาร์/บาร์เรล  หลังสหรัฐเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลดลงอีกและความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ทั้งสัปดาห์น้ำมัน WTI +25%

+สัปดาห์ที่ผ่านนมาศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รายวันต่ำกว่า 10 ราย ยอด ผู้ป่วยสะสม 3,009 ราย  ผู้เสียชีวิตรวม 56 ราย ลุ้นรอผลประชุม 15 พ.ค.ก่อนคลายล็อกดาวน์ระยะ 2 ในวันที่ 17 พ.ค.

-จีนประกาศขยายเวลาเก็บภาษี AD ท่อเหล็กจากสหรัฐ-EU ต่อไปอีก 5 ปี

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปรับตัวขึ้น 23.82 จุด +0.83%

+ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 504.32 จุด +2.56% เช้านี้เปิด +154.64 จุด

+ทองคำอ่อนตัวลงจากมีแรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.71 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.19 บาท/US

*จับตา BOJ รายงานสรุปมุมมองทางเศรษฐกิจ

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากข่าวผู้แทนการค้าสหรัฐและจีนได้หารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะปรับปรุงบรรยากาศเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามข้อตกลง ประกอบกับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.1%คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,280 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

PTT (Bloomberg Consensus 39.06) คาดประกาศผลประกอบการ 1Q63 ในวันนี้ 5.79 พันล้านบาท -67%QoQ และ -80%YoY โดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจาก 60$/bbl สู่ 25 $/bbl ส่งผลให้ธุรกิจผลิตและสำรวจ (PTTEP) ผลประกอบการลดลงสู่ 8.6 พันล้านบาท ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่น TOP PTTGC และ IRPC ผลประกอบการขาดทุน 1.37 หมื่นล้านบาท 8.8 พันล้านบาท และ 8.9 พันล้านบาทตามลำดับ อย่างไรก็ตามธุรกิจโรงไฟฟ้า GPSC ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นสู่ 1.58 พันล้านบาท

ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการของ PTT จะต่ำสุดใน 1Q63 เนื่องจากกลุ่มโรงกลั่นมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันดิบ โดยจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ 2Q63 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำจะกดดันผลประกอบการในปีนี้ให้ลดลง 20% สู่ 7.5 หมื่นล้านบาท แนะนำ เล่นรอบเก็งกำไร

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ MSCI มีผล 29 พ.ค. (AWC TOA KTC)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการเปิดปลดล็อกดาวน์ในกลุ่มสีเหลือง (ความเสี่ยงปานกลาง) ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรด (CRC MBK CPN HMPRO DOHOME MC RSP COM7 JMART) ร้านอาหาร (AU M ZEN MINT) คลินิกทำฟัน (D LDC)

ส่องหุ้น

        CHAYO   แนวรับ 6.00-5.95 บาท        แนวต้าน 6.40 , 6.65 , 6.95 บาท

        VGI        แนวรับ 8.40 บาท                แนวต้าน 8.75-8.85 , 9.15 บาท

        HANA     แนวรับ 29.50-29.25 บาท     แนวต้าน 32.75 บาท

หุ้นมีข่าว   

(+/-) INTUCH (Bloomberg Consensus72.77 บาท)   ผลประกอบการไตรมาส 1/2563 มีกำไรสุทธิ 2.74 พันล้านบาท ลดลง 5.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามการรับรู้กำไรจากเอไอเอส โดยเอไอเอสมีผลกำไรสุทธิ (ที่ไม่รวมผลกระทบจาก TFRS16) ในไตรมาส 1/2563 ที่ 7,004 ล้านบาท ลดลง 7.5%YoY จากการแข่งขันทั้งตลาดลูกค้าระบบเติมเงินและรายเดือน การได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงและการปิดช่องทางการจัดจำหน่ายตามมาตรการล็อคดาวน์ของภาครัฐ ขณะที่ไทยคมมีผลกำไรสุทธิ 198 ล้านบาท จากการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

ความเห็น : เรามองเป็นกลางต่อผลประกอบการของ INTUCH ที่รายงานออกมาใกล้เคียงที่ Consensus คาด โดยการแข่งขันที่รุนแรงในนกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญต่อผลประกอบการในอนาคต แนะนำ ถือ”

TOP (เก็งกำไร Bloomberg Consensus 43.67) รายงานผลขาดทุน 1Q63 ที่ 1.37 หมื่นล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทั้ง YoY และ QoQ เหตุผลหลักคือ ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันดิบ 1.08 หมื่นล้านบาทเนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจาก 60 $/bbl เหลือ 30$/bbl และค่าการกลั่นปรับตัวลงจากไตรมาสก่อนที่ 4.4 $/bbl เหลือ 2.1 $/bbl  ตามอุปสงค์ที่ลดลงจาก COVID-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในน้ำมันอากาศยานและน้ำมันดีเซล ขณะที่ธุรกิจอะโรเมติกส์ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นตามส่วนต่างผลิตภัณฑ์เบนซีนและพาราไซลีนที่เพิ่มขึ้น จากอุปทานในจีนลดลงเพราะหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน

ความเห็น เราคาดผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q63 และผลประกอบการใน 2Q63 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากราคาน้ำมันส่วนเพิ่ม (Crude Premium) ลดลงจาก 1Q63 ที่ +2.5$/bbl สู่ -6$/bbl ช่วยหนุนค่าการกลั่นให้ปรับตัวดีขึ้นอีกทั้งประเทศต่างๆ ทยอยเปิดเมืองทำให้อุปสงค์ในน้ำมันเริ่มกลับมา

PTTGC (เก็งกำไร Bloomberg Consensus 39.25)  รายงานขาดทุน 8.8 พันล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทั้ง YoY และ QoQ ธุรกิจโรงกลั่นถูกกดดันจากผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบ 8.9 พันล้านบาทตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง และมีผลขาดทุนจากค่าเงินบาทอีก 2.26 พันล้านบาทจากเงินบาทอ่อนค่า ด้านค่าการกลั่นปรับตัวลงจากไตรมาสก่อนที่ 4.66 $/bbl สู่ 3.49$/bbl  จากส่วนต่างน้ำมันอากาศยานอ่อนตัวจากการยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ด้านธุรกิจอะโรเมติกส์ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นตามส่วนต่างผลิตภัณฑ์ Px และ Bz ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจโอเลฟินส์ราคาผลิตภัณฑ์ทรงตัว

ความเห็น คาดผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q63 และจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี โดย 2Q63 ธุรกิจปิโตรเคมีได้ผลบวกจากราคาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปปรับตัวลงช้ากว่าต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน อีกทั้งการเปิดเมืองของประเทศต่างๆ ช่วยเพิ่มอุปสงค์ทั้งน้ำมันและปิโตรเคมี

(+) RS (Bloomberg Consensus 11.82 บาท) โชว์ผลงานนิวไฮ! ไตรมาส 1/63 อวดกำไรสุทธิ 186.50 ล้านบาท โตสนั่น 69.30% เหตุรายได้ธุรกิจสื่อและธุรกิจเพลงฯเพิ่มขึ้น ขณะที่ไตรมาส 2/63 เปิดตัวเปิดตัวช่องทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “COOLSM” (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) IRPC (Bloomberg Consensus 2.61 บาท)  ปรับแผนลงทุน 5 ปี เตรียมเสนอ บอร์ดหั่นงบลงทุนออก 50% จากเดิมตั้งเป้าไว้ 6.8 หมื่นล้านบาท สั่งเลื่อนโครงการ MARS ชะลอซื้อทรัพย์สิน เหตุกังวลความต้องการใช้ปิโตรเคมีหดตัว ขณะที่คำสั่งซื้อจากจีนทยอยฟื้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TPCH (Bloomberg Consensus 15.40 บาท) จ่อ COD โรงไฟฟ้าชีวมวลปัตตานี 21 MW ภายในพ.ค.นี้ ขณะที่โรงไฟฟ้าชีวมวล TPCH 1, TPCH 2, TPCH 5 คาด COD ในไตรมาส 2/63 หนุนกำลังผลิตเพิ่มอีก 46 MW ดันปีนี้โตต่อเนื่อง ส่วนไตรมาส 1/63 มีกำไร 85.72 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) ACE (Bloomberg Consensus - บาท)  ลุ้นเข้า SET100 รอบครึ่งปีหลัง 2563 ขณะที่อดีตผู้ว่า กฟผ. แนะบูมชีวมวล ฟากผู้บริหาร "ธีรวุฒิ ทรงเมตตา" ประกาศเดินหน้าโกยเต็มสูบพร้อมลุยโรงไฟฟ้าชุมชน 400 เมกะวัตต์ มั่นใจความพร้อม ข้อเสนอดี ช่วยเหลือชุมชน ปักธงปี 2567 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าแตะ 1 พันเมกะวัตต์ (ที่มา ทันหุ้น)

(-) JAS (Bloomberg Consensus 4.75 บาท)  เจอมาตรฐานการเงินใหม่ ฉบับที่ 16 เรื่องค่าเช่าเล่นงาน ทำขาดทุน Q1/2563 หนัก 990 ล้านบาท สั่งปันผลระหว่างกาล 0.05 บาทแก้เกมทันที ชี้มีกำไรสะสม 6,898 ล้านบาท โชว์เงินสด 22,408 ล้านบาท ชูรายได้ไตรมาส 1/2563 ยังโต 4% ลูกค้าเพิ่มขึ้น 61,597 ราย แพ็กเกจ Giga Fiber ดันลูกค้า FTTx เพิ่มสัดส่วนแตะ 63% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TPLAS (Bloomberg Consensus - บาท)  ลุยเดินไลน์ผลิตกล่องกระดาษบรรจุอาหาร ภายใต้ "B-LEAF" ปลายเมษายนที่ผ่านมาเฟสแรกประเดิมการผลิต 650,000 กล่องต่อเดือน ตั้งเป้ายอดขายที่ 30 ล้านบาท ด้านผู้บริหารส่งซิกโค้งแรกผลการดำเนินงานตามเป้า แม้เจอวิกฤติ COVID-19 ระบุ เตรียมศึกษาเพิ่มไลน์สินค้าใหม่อีก 1-2 โปรดักต์ คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ (ที่มา ทันหุ้น)