'สนธิรัตน์' เตรียมแพคเกจพลังงานช่วยฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19

'สนธิรัตน์' เตรียมแพคเกจพลังงานช่วยฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19

“สนธิรัตน์” เตรียมระดมสมองผุดแพคเกจด้านพลังงานฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 เร็วๆนี้ คาดสัปดาห์หน้า ออกประกาศรับซื้อไฟโรงไฟฟ้าชุมชน 100 เมกะวัตต์แรก เล็งยกเลิกหัวจ่ายน้ำมันบางชนิดลดต้นทุนผู้ค้า

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมคลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันที่ จ.สมุทรสาคร ของบริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานเชื้อเพลิงรายใหญ่ในจังหวัดสมุทรสาคร ให้บริการด้านการจัดเก็บ จัดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อหลื่น ให้แก่ผู้ค้าน้ำมันรายสำคัญของประเทศ วานนี้(8พ.ค.) โดยระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อมารับฟังปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของผู้ประกอบการคลังน้ำมันในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งพบว่า การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆลดลง หลังจากประชาชนต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ หลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19

ดังนั้น ได้ขอให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจพลังงาน รวมถึงนักคิด นักวิชาการต่างๆ ระดมความเห็นรวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ มานำเสนอ เพื่อที่รัฐบาลจะจัดทำมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและฟื้นฟูหลังโควิด

“ขณะนี้ ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลกำลังดูแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด จะเน้นเศรษฐกิจจฐานราก และไม่ทอดทิ้งภาคธุรกิจด้วย โดยรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้สั่งการให้รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งระดมแผนจัดทำแผนเกจเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว”

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้ากระทรวงพลังงานจะหารือถึงแพคเกจแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านพลังงาน ซึ่งจะเน้นการดูแลเศรษฐกิจจากฐานราก ส่วนงบประมาณที่ใช้นั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ งบที่กระทรวงพลังงานมีอยู่แล้วบางส่วนแต่นำมาปรับวัตถุประสงค์ให้ตรงกับเป้าหมาย และอีกส่วนจะต้องพิจารณาสามารถใช้งบประมาณจากเงินกู้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้หรือไม่

เบื้องต้น โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ก็ถือเป็นหนึ่งในแพคเกจดังกล่าวที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะออกประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบเร่งด่วน (Qick Win) ปริมาณไม่เกิน 100 เมกกะวัตต์ ได้ในสัปดาห์หน้า และคาดว่าภายในเดือนมิ.ย.นี้จะสามารถเริ่มอนุมัติโครงการฯได้

ส่วนการใช้น้ำมันที่ลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ยอมรับว่า อาจนำไปสู่การปรับโครงสร้างน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ โดยจะพิจารณายกเลิกการจำหน่ายน้ำมันบางชนิดทั้งในกลุ่มดีเซลและเบนซินหลังโควิด-19 ซึ่งจะช่วยลดภาระต้นทุนคลังเก็บน้ำมันและหัวจ่ายน้ำมันลง แต่ในส่วนของการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพทั้งไบโอดีเซล บี10 และแก๊สโซฮอล์ อี20 จะเดินหน้าส่งเสริมอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกพืชพลังงานให้มีรายได้

นายสินธุ์ ครองพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจคลังน้ำมันและน้ำมันหล่อลื่น กล่าวว่า บริษัท ได้รับผลกระทบจากยอดขายน้ำมัน ที่ลดลงประมาณ 30% ในเดือนเม.ย.2563 โดยมองว่า แนวทางที่ภาครัฐจะช่วยแบ่งเบาภาระผู้ประกอบการได้ เช่น การพิจารณาช่วยเหลือด้านภาษีเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ รวมทั้งพิจารณา​ลดภาษีน้ำมันหล่อลื่นที่จัดเก็บ 5.50 บาทต่อลิตรเป็นการชั่วคราว เป็นต้น

ทั้งนี้ ยอดการใช้น้ำมันที่ลดลงส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทลดลงตามยอดขอเช่าคลังเหลือเดือนละ 195 ล้านลิตร จากเดิมเดือนละ 230-250 ล้านลิตร