หอการค้าจังหวัดตาก วอนรัฐบาลปลดล็อคท่าข้ามไทย-เมียนมา

หอการค้าจังหวัดตาก วอนรัฐบาลปลดล็อคท่าข้ามชายแดนไทย-เมียนมากว่า 20 แห่ง ให้ส่งออกเฉพาะสินค้าเท่านั้น หลังถูกปิดมานานกว่า 1 เดือน

นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ขณะนี้บรรยากาศการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตากตรงข้ามจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ค่อนข้างเงียบเหงา มานานกว่า 1 เดือน หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยได้สั่งปิดด่านแม่สอดเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้

การเข้า - ออก ของคน ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนแม่สอด บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ต้องปิดเป็นการชั่วคราว รวมถึงปิดท่าข้ามธรรมชาติประมาณ 20 แห่ง แต่จะอนุญาตให้มีการส่งออกสินค้าได้ทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 เท่านั้นภายใต้มาตรการคุมเข้มที่ต้องปฎิบัติตามนโยบายของรัฐบาล

แม้ว่าโดยภาพรวมของการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ระหว่างอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมาไม่หยุดชะงัก เพราะทางฝั่งเมียนมา ยังมีการสั่งสิน ค้าจากฝั่งไทยเข้าไปจำหน่ายกันตามปกติ แต่วิถีชีวิตของคนชายแดนทั้ง 2 ประเทศไม่ปกติ ทำให้ชาวเมียนมาที่เคยเดินทางข้ามฝั่งมาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงติดต่อค้าขาย และการท่องเที่ยวนั้นแทบจะหายไปกว่าร้อยละ 90 เพราะทั้งทางรัฐบาลไทย และรัฐบาลเมียนมา ต่างยังมีนโยบายอย่างเข้มข้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งหากว่าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้จะมีผลกระทบต่อการซื้อขาย และระบบการค้าชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ

สิ่งสำคัญคือ ขณะนี้ทางหอการค้าจังหวัดตาก อยากให้รัฐบาลผ่อนปรนให้มีการเปิดท่าข้ามธรรมชาติแม้น้ำเมยระหว่างฝั่งอำเภอแม่สอด กับฝั่งจังหวัดเมียวดี กว่า 20 แห่ง ให้มีการส่งออกกันได้ตามปกติเช่นเดิม โดยอนุญาตเฉพาะสินค้าเท่านั้น เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อมาตรการของภาครัฐในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ขณะที่ผู้ประกอบการในจังหวัดตาก เริ่มมีข้อกังวลว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนมักจะมีน้ำหลาก และแม่น้ำเมยจะเอ่อล้นจนทำให้สินค้าที่รอการส่งออกบริเวณท่าข้ามต่างๆ ได้รับความเสียหาย ซึ่งหากว่ามีการผ่อนปรนล่าช้า อาาจะมีผลทำให้ตัวเลขมูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านด่านแม่สอดของปี 2563 ร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับตัวเลขการค้าชายแดนไทย-เมียนมาปี 2562 ที่มีมูลค่าเกือบ 80,000 ล้านบาท