รีบาวด์

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ รีบาวด์ แนวรับ 1247 / 1240 จุด แนวต้าน 1266 / 1272 จุด ปัจจัยลบ คือ ความเสี่ยงต่อการเกิดสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยบวก คือ หลายประเทศทั่วโลกเริ่มผ่อนคลาย lockdown และให้หลายธุรกิจกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

      1) สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รอบใหม่อาจเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า หลัง ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณเตรียมเพิ่มมาตรการลงโทษ หากจีนไม่สามารถทำตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกได้ตามสัญญา

      2) รายงานจ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้ เพิ่มความเสี่ยงเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

      3) บจ. จำนวนมากจะเริ่มทยอยประกาศงบ คาดส่งผลกระทบต่อหุ้นรายตัว หากกำไรออกมาแย่กว่าคาด (วานนี้ MTC GPSC กำไรดีกว่าคาด)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: EU-รมว.คลังประชุมหารือเรื่อง Recovery Fund, USA-รายงานจ้างงานสหรัฐฯ เดือน เม.ย. ลดลง 21.5 ล้านราย (Vs เดือน มี.ค. -701k) อัตราว่างงาน 16% (Vs เดือน มี.ค.4.4%), Japan-รายงาน Jibun Bank Service PMI เดือน เม.ย. คาด 22.8 (Vs เดือน มี.ค. 33.8), UK-ตลาดหุ้นปิดทำการ

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทย: ดัชนีฯ สร้างจุดต่ำสุดของวันที่ 1252.20 จุด -26.43 จุด ในภาคบ่าย ก่อน รีบาวด์ขึ้นมาปิดที่ 1257.98 จุด -20.65 จุด -1.62% วอลุ่ม 5.55 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำลง คือ อสังหาฯ -3.53% มีเดีย -3.02% ธนาคารฯ -3.03% รับเหมาฯ -2.93% หลักทรัพย์ที่ร่วงกว่า 5% ได้แก่ BAM MINT CPN BJC KKP TCAP THANI CENTEL RS AAV TQM DOD AI PSL THCOM ERW ส่วนหลักทรัพย์ที่ปรับขึ้น SUPER PSTC INTUCH KCE XO HTECH TEAMG GIFT APURE ALT DCC ICN

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: การคลายมาตรการ lockdown และการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบโลก เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน ช่วยหนุนตลาดหุ้นโลก DJ +0.89% S&P500 +1.15% Nasdaq +1.41% DAX +1.44% CAC40 +1.54% โดย Nasdaq เป็นตลาดแรกที่สามารถฟื้นตัวเป็นบวก 0.1% YTD

- น้ำมันดิบผันผวนก่อนปิดลบ: WTI -USD0.44 -1.83% ปิด USD23.55/บาร์เรล Brent -USD0.26 -0.9% ปิดที่ USD29.46/บาร์เรล หลังประธานเฟด เซนต์หลุยส์ Bullard คาดอัตราว่างงานศุกร์นี้อาจสูงกว่า 20% ทำให้อุปสงค์น้ำมันดิบอาจไม่ปรับสูงขึ้นมากตามที่ตลาดคาดการณ์

+ ทองคำกลับมาปิดบวก: รายงานจ้างงานสหรัฐฯ ที่แย่ลงเป็นปัจจัยหนุนราคาทอง วานนี้ โดยปิดที่ USD1725.80/ออนซ์ +USD37.30 หรือ +2.21%

ประเด็นสำคัญ

+/- COVID -19 Update: พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 3.78 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 2.64 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.2 ล้านราย เสียชีวิต 7.34 หมื่นราย รองลงมา คือ สเปน อิตาลี อังกฤษ, USA-ทหารผู้ช่วยบริการเรื่องส่วนตัวของประธานาธิบดีทรัมป์ พบติดเชื้อไวรัสฯ ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์และคนใกล้ชิดต้องมีการตรวจเชื้อทุกวัน, จีน-ผอ. หวัง จาก Peking University First Hospital แจ้งว่า คนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสฯ ไปแล้ว มีโอกาสที่จะกลับมาติดซ้าอีกครั้ง ประมาณ 5 -15% ของทั้งหมด

+ ไทย: Update ณ วันที่ 7 พ.ค. ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ มีจำนวน 3 ราย (วันก่อนหน้าอยู่ที่ 1 ราย) สะสมรวม 2,992 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต (วันก่อนหน้าอยู่ที่ 1 ราย) สะสมรวม 55 ราย โดยศบค. เล็งปลดล็อกเฟส 2 เริ่มวันที่ 17 พ.ค.

+/- US -China: ประธานาธิบดีทรัมป์ เผยว่าใน 1-2 สัปดาห์หน้า จะชี้แจงได้ว่าจีนปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกหรือไม่

+ USA: FDA อนุมัติให้บริษัท Moderna ทดลองวัคซีนเฟส 2 กับอาสาสมัคร 600 คน และหวังว่าจะเริ่มเฟส 3 ได้ในฤดูร้อน แต่ยาHydroxychloroquine ประสบความล้มเหลวในการทดสอบ

+ จีน: รายงานดุลการค้าเดือน เม.ย. สูงเกินคาด +USD45.34bn (สูงสุดตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2019)

- USA: จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สูงกว่าคาดการณ์ของตลาดเป็น 3.17 ล้านราย (Vs คาด 3.05 ล้านราย, สัปดาห์ก่อนหน้า 3.83 ล้านราย) ส่งผลให้ 7 สัปดาห์ มีผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรวมถึง 33.5 ล้านราย

+/- BOE Meeting: ผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ มีมติ 7 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.1% และคงวงเงินทำ QE ไว้ที่ 6.45 แสนล้านปอนด์

+/- 1Q20 Earnings Results: จับตา INTUCH คาดกำไร 2.69 พันล้านบาท -7.1% YoY +42.7% QoQ / PTTGC คาดขาดทุน 6.55 พันล้านบาท -202% YoY -1,854% QoQ ส่วนวานนี้ GPSC MTC PTTEP กำไรดีกว่าคาด, LPN IRPC กำไรแย่กว่าคาด

+/- ไทย: กองทุน SSFX ยอดซื้อเดือนแรก (เดือน เม.ย. 2020) เพียง 1.3 พันล้านบาท

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: GPSC TU BTS

หุ้นแนะนำ Trading Buy: PTTEP BTS CPALL EGCO ESSO HMPRO RATCH STA PTG

Derivatives: หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรด้วยการ Long Options ที่มี Strike price เป็น Out of the money (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)