SCCC - ซื้อ

SCCC - ซื้อ

ผลประกอบการ 1Q63: เป็นไปตามคาด

Event

กำไรสุทธิของ SCCC ใน 1Q63 อยู่ที่ 820 ล้านบาท (-25.3% YoY, +72.3% QoQ) คิดเป็น 38.3% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเราและ Bloomberg consensus.

lmpact

รายได้ลดลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากอุปสงค์ลดลงทั้งภูมิภาค

ยอดขายใน 1Q63 อยู่ที่ 1.10 หมื่นล้านบาท (-7.3% YoY, -7.1% QoQ) ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดไว้ โดยยอดขายที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ เป็นเพราะ i) อุปสงค์ปูนซีเมนต์ในประเทศลดลง (เพราะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และความล่าช้าในกระบวนการผ่านร่าง พรบ. งบประมาณปี 2563 ของรัฐบาล) ii)
การที่เมืองโฮจิมิน ซิตี้ หยุดออกใบอนุญาตก่อสร้าง และเลื่อนโครงการภาครัฐในประเทศศรีลังกา บวกกับการประกาศ curfew 24 ชั่วโมงในปลายเดือนมีนาคม ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจการค้าอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (+18.5% YoY, -28.9% QoQ) โดยการเติบโต YoY จะมาจากอุปสงค์ปูนเม็ด (clinker) ที่เพิ่มขึ้นจากออสเตรีเลีย และตะวันออกกลางในช่วงสองเดือนแรกก่อนการระบาดของ COVID-19

อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย YoY เนื่องจากมีการปิ ดซ่อมบำรุงเตาเผาปูนตามกำหนดสองเตา

อัตรากำไรขั้นต้นของ SCCC อยู่ที่ 32.5% ลดลงจาก 32.7% ใน 1Q62 เนื่องจากมีการปิ ดเตาเผาปูนตามกำหนดสองเตา (หนึ่งเตาในประเทศไทย และอีกหนึ่งเตาในศรีลังกา) ซึ่งมีผลกระทบมากกว่าต้นทุนถ่านหินที่ลดลง และประสิทธิภาพในการผลิตทที่เพิ่มขึ้นของโรงปูนในเวียดนามและศรีลังกา ในขณะเดียวกัน สัดส่วน SG&A/ยอดขายก็ขยับเพิ่มขึ้น QoQ เป็น 22.4% (จาก 21.8% ใน 1Q62 และ 20.8% ใน 4Q62) รายได้ Equity income อยู่ที่ 199 ล้านบาท (+0.6% YoY, +99.1% QoQ) เนื่องจากอุปสงค์ปูนซีเมนต์ที่แข็งแกร่งในประเทศกัมพูชา

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 152 บาท อิงจาก PER ที่ 21.0x เราคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทใน 2Q63 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากมาตรการ lockdown ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ (เวียดนาม ศรีลังกา อินเดีย และบังกลาเทศ) แถมยังมีค่าใช้จ่าย SG&A พิเศษอีกจากการหยุดใช้เตาเผาปูนที่ 1 แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการผ่อนคลายมาตรการ lockdown จะเป็นปัจจัยกระตุ้นด้านบวกใน 2H63

Risks

ราคาถ่านหินมีแนวโน้มสูงขึ้น ความล่าช้าของโครงการลงทุนภาครัฐ และการใช้นโยบาย macroprudential กับภาคอสังหาริมทรัพย์