รีบาวด์ตามรอบบ้าน

ตลาดหุ้นวานนี้

SET วานนี้ปรับตัวลงปิดที่ 1,258 จุด (-20.65 จุด) หรือ -1.62% ด้วย Volume ซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนประกอบกับนักลงทุนมีความกังวล Tradewar รอบใหม่หลังปธน.ทรัมป์สั่งให้ตรวจสอบการสั่งซื้อของจีนตามข้อตกลงเฟส 1 นอกจากนี้ยังมีแรงขายลดความเสี่ยงในด้าน Valuation P/E ของ SET ที่ค่อนข้างสูงโดยส่วนใหญ่เป็นแรงขายในกลุ่ม Tourism ,Bank , Prop และ Fin กดดันดัชนี  ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,045 ล้านบาท  , Net Short TFEX SET50 6,135 สัญญา และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,196 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นบวกคาด SET รีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,270 – 1,280 จุด ตอบรับ sentiment เชิงบวกสหรัฐ-จีนจะกลับมาหารือข้อตกลงการค้าเฟส 1 อีกครั้งในสัปดาห์หน้า ประกอบกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ของไทยที่ชะลอตัวลงชัดเจนซึ่งศบค.เตรียมผ่อนปรม Lockdown เฟส 2 ให้ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ สินเชื่อในห้างในวันที่ 17 พ.ค. นั้นเป็นบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจรวมถึงทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตามปัจจัยถ่วงจากยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐที่พุ่งขึ้นอีก 3.17 ล้านราย รวมเป็น 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับแรงขายลดความเสี่ยงผลประกอบการหลายบริษัทฯที่คาดว่างบ 1Q20 จะหดตัวลงทั้ง qoq และ yoy นั้นจะเป็นตัวถ่วงให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

• กลุ่มค้าปลีก (CRC, CPN, HMPRO, GLOBAL, COM7) อานิสงส์ศบค.เตรียมผ่อนปรนมาตรการ Lockdown เฟส 2
• กรมอุตุฯเตรียมประกาศเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงกลางเดือน พ.ค. ซึ่งเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น EATSW, CKP, GPSC, GULF, BGRIM
• กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ค่อนข้างน้อย ICT (ADVANC, INTUCH, DTAC) กลุ่มอาหาร (CPF)
• กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q20 จะปรับตัวขึ้น (CPF, IVL, BCPG, GPSC, RS)

หุ้นแนะนำวันนี้

• BTS (ปิด 11.6 ซื้อ/เป้า 13.5) ได้ Sentiment บวกจำนวนผู้โดยสารเร่งตัวขึ้นหลังภาครัฐคลาย lockdown ตั้งแต่ 3 พ.ค. ขณะที่รายได้รับจ้างเดินรถจะเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งหลังจากเปิดเดินรถสายสีเขียวเหนือเส้นทางสถานีห้าแยกลาดพร้าวถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์รวม 5 สถานีเข้ามาเต็มปี และเตรียมที่จะเปิดเพิ่มอีก 4 สถานีในช่วงเดือน มิ.ย.
• MTC (ปิด 45 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 50 บาท) แจ้งกำไรสุทธิ 1Q20 ออกมา New high ตามคาดโดยมีกำไรสุทธิ 1.23 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 9%qoq และ 24%yoy จากยอดสินเชื่อยังขยายตัว และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง แนวโน้ม 2Q20 ยังดี โดยจะได้ประโยชน์จาก Soft loan ดอกเบี้ยต่ำ (2%)ของธนาคารออมสิน

บทวิเคราะห์วันนี้

ADVANC (ปิด 197.5 ซื้อ/เป้า 244), ANAN (ปิด 1.58 ซื้อ/เป้าใหม่ 2.2 เดิม 3), CPALL (ปิด 70 ซื้อ/เป้า 80), GPSC (ปิด 68.5 ถือ/เป้า 78), IRPC (ปิด 2.6 ซื้อ/เป้า 3.2), LPN (ปิด 3.5 ซื้อ/เป้า 4.1 จาก 6.1), MAKRO (ปิด 35.25 ถือ/เป้า 37.2)

ประเด็นสำคัญวันนี้

• (+) ดาวโจนส์บวก 200 จุด นักลงทุนคาดหวังเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาดีหลังสหรัฐเร่งเปิดเศรษฐกิจ(Reopen): วานนี้สหรัฐรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นอีก 3.17 ล้านรายมากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.05 ราย ส่งผลให้สหรัฐมียอดคนว่างงานเพิ่มขึ้นถึง 33.5 ล้านคนภายในเวลาเพียง 7 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามดัชนีดาวโจนส์ยังคงปรับขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองข้ามตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบันและคาดหวังถึงการฟื้นตัวในอนาคตหลังจากที่รัฐต่างๆ ในอเมริกาเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจหรือ Reopen  ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มเมื่อคืนนี้เพิ่มขึ้นอีก 211 จุด (+0.89%) ปิดที่ระดับ 23,876 จุด
• (+/-) กลุ่มห้างและค้าปลีก  - ศบค. ชงปลดล็อกเฟส 2 เป็นบวกในเชิง Sentiment แต่เงื่อนไขการเข้าใช้ที่เข้มงวดจะจำกัด รายได้ของผู้ประกอบการ: วันนี้ ศบค.จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมรายละเอียดยื่นเสนอให้นายกฯประกาศปลดล็อกเฟส 2 ในสัปดาห์หน้า โดยภาคธุรกิจที่คาดว่าจะถูกปลดล็อกในเฟสที่ 2 ประกอบด้วยกลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก และร้านวัสดุก่อสร้าง มอง Sentiment บวกต่อผู้ประกอบการในตลาดทุน อาทิ CPN CRC HMPRO GLOBAL DOHOME ส่วนด้านรายได้หรือผลประกอบการ ยังต้องรอดูรายละเอียดและเงื่อนไขของการเข้าใช้หากเข้มงวดเกินไป (จัดคิวภายนอกอาคาร, เข้าใช้ได้คนละ 2 ช.ม.) จะทำให้รายได้ที่เพิ่มขึ้นในระยะแรกเป็นไปอย่างจำกัดและอาจจะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น (ไม่ได้ economic of scale)
• (+/-) สัปดาห์หน้าติดตามประชุมผู้แทนการค้าจีนสหรัฐ คาดยังไร้ข้อสรุป แต่จะมีความเห็นในทางบวกของผู้เข้าประชุมช่วยคลายกังวลให้ตลาด: หลังจากที่ โดนัล ทรัมป์ ออกมาขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีกรอบ ทำให้จีนและสหรัฐเตรียมเข้าหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันในสัปดาห์หน้าซึ่งจะเป็นการพูดคุยในระดับตัวแทนของแต่ละฝ่ายซึ่งนับเป็นการพูดคุยกันครั้งแรกนับตั้งแต่ 2 ประเทศลงนามยุติการค้าเฟสแรกในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เรามีมุมองเป็นกลางต่อการจัดประชุมกันในครั้งนี้โดยคาดว่าจะยังไม่มีข้อสรุปออกมาที่ชัดเจนแต่จะมีการแสดงความเห็นทางบวกของผู้เข้าเจราถึงความคืบหน้าในการพูดคุยคล้ายกับการประชุมในหลายๆครั้งที่ผ่านมาซึ่งน่าจะคลายกังวลให้กับตลาดได้ในระยะสั้นๆ ส่วนฝั่งลบที่สหรัฐจะขึ้นภาษีจากสินค้าจีนเรามองว่ายังเร็วเกินไป โดยคาดว่าสหรัฐน่าจะรอข้อมูลและรายละเอียดจากการตรวจสอบว่าจีนได้ปฏิบัติตามข้อตกลงในเฟสแรกหรือไม่เสียก่อน