สงขลาวาง 8 มาตรการละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด

นายวิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรี ประจำภาคใต้ เปิดเผยว่าหลังสำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศผ่อนปรนให้ละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดได้โดยให้ปฎิบัติตามมาตรการ

โดยจ.สงขลาสามารถเริ่มละหมาดที่มัสยิดวันศุกร์ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. นั้น เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่มัสยิดบ้านเหนือได้เชิญอิหม่าม 4 มัสยิดในเขตตำบลคูเต่าหารือเพื่อเตรียมการ

 และเพื่อสนองคำสั่งท่านจุฬาราชมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในการละหมาดญุมอัต โดยแต่ละมัสยิดจะเป็นผู้ดำเนินการ

1.ให้ทุกมัสยิดกำหนดจุดการยืนละหมาดแต่ละจุดห่างกัน 1.50 เมตร

2.ผู้ที่ละหมาดทุกท่านต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า (ใครไม่สวมหน้ากากห้ามเข้าในมัสยิด)

3.เตรียมเจลล้างมือให้เพียงพอแก่สัปปุรุษทุกท่าน 

4.ทำการตรวจวัดอุณภูมิทุกคนก่อนเข้าละหมาด คนใดอุณภูมิเกินกำหนด ห้ามให้เข้าในมัสยิด (โดยรพ.สต.สนับสนุนเครื่องวัดอุณภูมิให้กับมัสยิด)

5.ห้ามทุกมัสยิดให้สัปปุรุษอาบน้ำละหมาดในกอเลาะเก็บน้ำ 

6.ทั้งการอาซาน คุตบะฮฺ และการละหมาด ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที

7.งดการจับมือให้สลามซึ่งกันและกัน

และ8.หลักจากละหมาดเสร็จรีบแยกย้ายกลับที่พักของตนเอง 

             

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า หากทุกมัสยิดปฎิบัติอย่างเคร่งครัดและสถานการณ์ทุเลาบรรเทาลงและหมดไปในที่สุด แล้วเราจะปฎิบัติศาสนกิจได้เฉกเช่นเดิม

“เราก็หวังว่าช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นวันอันประเสริฐ สถานที่ประเสริฐ นั่นคือการละหมาดญามะอะฮฺ ตารอเวียะ ละหมาดอีด ที่รอฟังคำสั่งจากท่านจุฬาราชมนตรีในลำดับต่อไป” ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรี ประจำภาคใต้ กล่าว