ทยอยประกาศผลประกอบการ 1Q63

ทยอยประกาศผลประกอบการ 1Q63

ดัชนีวันอังคารที่ผ่านมาปรับลดลงกว่า 23.03 จุด อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากที่ตลาดภายในประเทศเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว

ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังเปิดทำการและได้รับปัจจัยลบในวันก่อนหน้า หลังจากสหรัฐส่งสัญญาณทำสงครามการค้ากับจีนอีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,278.63 จุด (-23.03 จุด) Volume 5.1 หมื่นลบ. ต่างชาติ -4,604.9 ลบ. TFEX Net -3,436 สัญญา ตราสารหนี้ +357 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+โกลด์แมน แซคส์และมอร์แกน สแตนลีย์ชี้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวจาก 'ไวรัสโคโรนา'

+สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19ในไทยดีขึ้น วานนี้ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 218.45 จุด -0.91% หลังมีรายงานตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐร่วงลงกว่า 20 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19

-ราคาน้ำมันดิบ WTI -57 เซนต์ -2.3% ปิดที่ 23.99 ดอลลาร์/บาร์เรลกังวลภาวะน้ำมันล้นตลาดแม้มีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดและการผลิตน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

-นักวิเคราะห์คาดศุกร์นี้สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่ง 21.5 ล้านตำแหน่ง อัตราว่างงานพุ่ง 16%

-ดัชนี PMI ภาคบริการยูโรโซนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ผลจากโควิด-19

-รองปธ.เฟดเตือนโควิด-19 ฉุดศก.สหรัฐหดตัวรุนแรงใน Q2 และอาจทำให้อัตราว่างงานพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

-เช้านี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดลดลง 150.83 จุดตามทิศทางดาวโจนส์และเงินเยนแข็ง

-เช้านี้ตลาดหุ้นจีนเปิดลบ 1.67 จุด นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีน

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.66 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.43 บาท/US

*จับตาการประชุมกกร. ส่วนสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ของสหรัฐที่ลดลงกว่า 20 ล้านตำแหน่ง จากผลกระทบของโควิด-19 ขณะที่ราคาน้ำมันที่ทรงตัวเหนือระดับ 20 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 คาดว่าจะช่วยพยุงตลาดได้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,260-1,300 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

GPSC (ซื้อเมื่ออ่อนตัว Bloomberg Consensus 82)

  • คาดรายงานกำไร 1Q63 ในวันนี้ที่ 969 ล้านบาท -15%QoQ แต่ +3%YoY เนื่องจากภาวะน้ำแล้งในลาว เราคาดว่ามีการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเขื่องไซยะบุรีเข้ามากกดดันผลประกอบการ นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 63 ที่มีการปิดเมืองส่งผลต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม
  • ประเด็นลบเพิ่มเติม "กฟผ." เร่งเจรจา SPP ลดปริมาณรับซื้อไฟฟ้า พร้อมเลื่อนรายใหม่เข้าระบบออกไปก่อน หวังลดปริมาณไฟฟ้าล้นระบบช่วงโควิด-19
  • ความเห็น คาดผลประกอบการใน 2Q63 ยังถูกกดดันจากความต้องการใช้ไฟฟ้าของโรงงานที่อ่อนตัวลงหลังมีการปิดเมือง อีกทั้งประเด็นข่าว กฟผ. ขอเจรจาลดปริมาณซื้อไฟฟ้าทำให้รายได้จากโรงงานที่เคยมีปริมาณการซื้อไฟฟ้าขั้นต่ำต้องปรับลงเป็นปัจจัยกดดันต่อผลประกอบการเพิ่มเติม แนะนำ รอซื้อเมื่ออ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการทยอยปลด Lockdown (BTS BTSGIF BEM CRC MC AU)
  • หุ้น mai ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลดลงอยู่ในธุรกิจขนส่ง (ATP30 VL SONIC AMA KIAT)
  • หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ MSCI มีผล 29 พ.ค. (AWC TOA KTC)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการเปิดปลดล็อกดาวน์ในกลุ่มสีเหลือง (ความเสี่ยงปานกลาง) ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรด(CRC MBK CPN HMPRO DOHOME MC RSP COM7 JMART) ร้านอาหาร (AU M ZEN MINT) คลินิกทำฟัน (D LDC)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการปลดล็อกดาวน์ในกลุ่มสีแดง (ความเสี่ยงสูง) ได้แก่  โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ร้านนวด (SPA) ศูนย์แสดงสินค้า (IMPACT)

หุ้นมีข่าว   

(+) SSP เดินหน้ารับทรัพย์ บุ๊กรายได้ไฟฟ้า ยามากะ 34.5 MW ลุ้นลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์-ลม ประเทศเวียดนาม เฟส 2 กำลังผลิตรวมกว่า 100 เมกะวัตต์ พร้อมซดไฟฟ้ามองโกเลีย-เวียดนาม กำลังการผลิตรวม 66 เมกะวัตต์ เต็มปีเป็นปีแรกหนุนผลงานปีนี้เข้าเป้าโต 20% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PSTC (ซื้อ ราคาเหมาะส 0.44) เตรียมยื่นเรื่องขอย้ายกระดานเทรด SET ภายในปีนี้ พร้อมยันเป้ารายได้เติบโต 5% จากแบ็กล็อกเฉียด 3 พันล้านบาท และรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 12 โครงการ ขนาดกำลังผลิตรวม 34.6 เมกะวัตต์ ด้านผู้ถือหุ้น PSTC ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 อัตราหุ้นละ 0.010 บาท เตรียมรับเงินสด 29 พฤษภาคมนี้ (ที่มาทันหุ้น)

ความเห็น ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 ลง 38% และ 16% จากเดิมเพื่อสะท้อนผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวแรง เราปรับลดประมาณการกำไรปี 63 จาก 159 ล้านบาทสู่ 98 ล้านบาทจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 (สมมติฐานปิดเมือง 3 เดือนตั้งแต่ มี.ค.63-พ.ค.63) และปรับลดคาดการณ์กำไรปี 64 ลงจาก 166 ล้านบาทสู่ 140 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการย้ายเข้า SET เร็วกว่าที่เราคาดไว้มองเป็นปัจจัยบวกในการลงทุนระยะสั้น

(-) กองทุน SSFX ยอดซื้อเดือนแรก (เม.ย. 63) เพียง 1.3 พันล้านบาท เหตุดัชนีตลาดหุ้นปรับขึ้นมาสูง จากความกังวลกับเรื่องโควิด-19 ถือครองระยะยาวถึง 10 ปี รวมถึงกำลังซื้อไม่เหมือนเดิม รอลุ้นเดือนสุดท้าย (มิ.ย. 63) ว่าจะเข้ามาเหมือนกับพฤติกรรมการซื้อกองทุน LTF และ RMF หรือไม่ (ที่มาข่าวหุ้น)

IRPC (ลงทุนยาว Bloomberg Consensus 2.61) คาดประกาศผล 1Q63 ในวันนี้ขาดทุนราว 8.3 พันล้านบาทลดลงอย่างมีนัยทั้ง YoY และ QoQ โดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจาก 60$/bbl เหลือ 25$/bbl นอกจากนี้ค่าการกลั่นและส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและโอเลฟินส์ที่อ่อนตัวลงหลัง COVID-19 ระบาดเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม

ความเห็น ราคาหุ้นปรับตัวลงมา 33% จากต้นปีตอบรับข่าวร้ายเรื่องขาดทนสต๊อกน้ำมันและค่าการกลั่นที่อ่อนตัวไปแล้ว โดยเราคาดว่าผลประกอบการจะต่ำสุดใน 1Q63 และจะค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี แม้ว่าราคาหุ้นอยู่ใกล้เคียงราคาเหมาะสมของ Bloomberg Consensus แต่เรามองว่าในอนาคตปัจจัยลบเหลือน้อยขณะที่คาดว่าอุปสงค์การใช้น้ำมันจะเริ่มฟื้นตัวจากการทยอยเปิดเมืองของประเทศต่างๆ เราจึงแนะนำให้ ลงทุนระยะยาว

(+)ทีทีดับบลิว (TTW)-บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เต็งเข้าคำนวณดัชนี SET50 ส่วน ACE, TVO, WHAUP, DOHOME, SIRI, RBF, SISBจ่อเข้า SET100 ประจำครึ่งหลังของปี 2563 ประกาศรายชื่อต้นเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนหุ้นแบงก์กรุงเทพ (BBL) มีลุ้นเข้าไปคำนวณในดัชนีMSCI Standard รูมต่างชาติขึ้นมาสูง 19% แล้ว โบรกฯ แนะซื้อเก็งกำไร (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+) TU (Bloomberg Consensus 15.83 บาท)  แจ้งงบไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 1,016 ล้านบาท ลดลง 20.20% หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนยอดขาย 31,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.90% ถือเป็นยอดขายประจำไตรมาสแรกสูงสุดรอบ 3 ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

(-) THAI (Bloomberg Consensus 3.99 บาท)  รอเก้อ! ครม.ยังไม่เคาะแผนฟื้นฟู ประยุทธ์กร้าว! ให้เวลาปรับโครงสร้างมา 5 ปี ยังล้มเหลว รอบนี้ถือเป็นโอกาสสุดท้าย พร้อมฝากขอความร่วมมือพนักงาน-สหภาพฯ ผนึกกำลังกู้วิกฤติองค์กร(ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PACE (Bloomberg Consensus - บาท)  ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอฟื้นฟูกิจการ ศาลฯ นัดไต่สวนวันที่ 29 มิ.ย.นี้ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ ลูกค้า พนักงาน และคู่ค้า หวังกลับมาดำเนินการธุรกิจต่อไป และการรักษามูลค่าทางธุรกิจไว้ ฟากโบรกฯ ชี้ PACE เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ น่าจะเห็นการแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินได้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) DOD (Bloomberg Consensus - บาท)  จ่อบุ๊กรายได้ "คิวรอน" ดันการเติบโต เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ทดแทนกลุ่มความงาม ขยายช่องทางการขายออนไลน์-ร้านสะดวกซื้อเพิ่มทดแทนห้างสรรพสินค้า ระบุรอสถานการณ์โควิด-19 นิ่งเล็งทบทวนเป้าหมายการเติบโตใหม่อีกครั้ง (ที่มา ทันหุ้น)