นักเศรษฐศาสตร์เตือนสหรัฐ-จีนทำสงครามการค้ารอบใหม่

นักเศรษฐศาสตร์เตือนสหรัฐ-จีนทำสงครามการค้ารอบใหม่

บรรดานักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า อาจเกิดสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว “ทรัมป์”ประกาศจะลงโทษจีนกรณีการระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ด้วยมาตรการภาษี

ทั้งนี้ สหรัฐและจีนทำข้อตกลงการค้าระหว่างกันที่กำหนดว่าในเฟสหนึ่งจีนต้องซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2.5 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีนี้ และเมื่อวันอาทิตย์(3พ.ค.)ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์บอกว่า จีนจะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งที่ทำร่วมกันและหากจีนไม่ซื้อสินค้าจากสหรัฐตามที่รับปากไว้ สหรัฐจะยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวกับจีน

การนำเรื่องการค้ามาโยงกับข้อกล่าวหาว่าจีนเป็นตัวการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ของทรัมป์ เกิดขึ้นในช่วงที่เขากำลังถูกตั้งคำถามเรื่องการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐรวมทั้งเรื่องที่ว่าเขาได้รับรู้แจ้งเตือนจากหน่วยงานข่าวกรองเกี่ยวกับเชื้อไวรัสที่ว่านี้เมื่อใด

นักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนว่า จีนควรให้ความสนใจกับคำขู่ของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการขึ้นภาษี เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจจีน ซึ่งมีปัญหาจากเรื่องโรคโควิด-19 อยู่แล้ว กำลังได้รับความเสียหายหนักมากขึ้น จีนจึงควรหลีกเลี่ยงสงครามการค้ารอบต่อไป

แต่ดาร์สัน ชิว นักเศรษฐศาสตร์อีกคน มีความเห็นว่าสหรัฐจะเป็นฝ่ายที่ต้องเสียหายเช่นกันเพราะโอกาสที่จีนจะทำตามข้อตกลงการค้าในเฟสหนึ่งมีน้อย เนื่องจากเศรษฐกิจจีนหดตัวลงถึง 6.8% ในช่วงไตรมาสแรกของปี และหากจะเดินหน้าทำตามข้อตกลงนี้จริง จีนจะต้องกู้เงินเป็นจำนวนมาก

ชิว เชื่อว่า มีโอกาสที่จะเกิดสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐกับจีนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐปลายปีนี้ และประธานาธิบดีทรัมป์อาจใช้เรื่องความขัดแย้งด้านการค้าเพื่อปลุกกระแสต่อต้านจีน โดยจะใช้เป็นประเด็นหาเสียงเลือกตั้ง

ขณะที่ แมทธิว พอตทิงเจอร์ รองที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐไม่ได้เตรียมลงโทษจีนกรณีที่จีนดำเนินการเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งสวนทางจากคำกล่าวของนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่บอกว่า จีนจงใจที่จะปกปิดขอบเขตของการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งกักตุนอุปกรณ์ทางการแพทย์

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐมียอดขาดดุลการค้าพุ่งขึ้น 11.6% แตะที่ระดับ 4.44 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. จากระดับ 3.98 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าและส่งออกของสหรัฐ

ทั้งนี้ ยอดนำเข้าของสหรัฐในเดือนมี.ค.ลดลง 6.2% แตะที่ระดับ 2.322 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดส่งออกลดลง 9.6% สู่ระดับ 1.877 แสนล้านดอลลาร์

แถลงการณ์ของกระทรวงระบุว่า ยอดส่งออกและนำเข้าในเดือนมี.ค.ของสหรัฐได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจในหลายภาคส่วนต้องลดกำลังการผลิตหรือระงับการผลิต นอกจากนี้ มาตรการปิดพรมแดนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ยังส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเป็นวงกว้าง


กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐยังระบุว่า สหรัฐมียอดขาดดุลการค้ากับจีนลดลง 4.2 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. หลังจากสหรัฐส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.8 พันล้านดอลลาร์ และนำเข้าสินค้าจากจีนลดลงสู่ระดับ 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์