'เพซ' ลุ้นศาลตั้ง 'บริหาร' แผนฟื้นฟู
“เพซ ดีเวลลอปเมนท์" เสนอตัวเป็นผู้จัดทำและบริหารแผนฟื้นฟูกิจการเอง ลุ้นศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งแต่งตั้ง 29 มิ.ย.นี้ หลังยื่นคำร้องขอเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ฟาก
สถาบันการเงินตกลงสนับสนุน "โครงการนิมิต หลังสวน" หากศาลฯมีคำสั่งตามแผน
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE เปิดเผยว่า เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และรักษามูลค่าทางธุรกิจไว้ รวมถึงสามารถอสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาให้แล้วเสร็จ เบื้องต้นสถาบันการเงินได้ตกลงสนับสนุนการก่อสร้างโครงการนิมิต หลังสวนให้แล้วเสร็จ หลังจากที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ และแต่งตั้งผู้ทำแผน
โดยคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) จึงเห็นชอบให้บริษัทยื่นคำร้องเพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ผ่านวิธีการฟื้นฟูกิจการในศาล โดยได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2563 และศาลล้มละลายกลางมีกำหนดนัดไต่สวนเพื่อมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งบริษัทเป็นผู้ทำแผนในวันที่ 29 มิ.ย.2563
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทตระหนักถึงปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และได้มีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะแก้ปัญหานี้ให้สำเร็จ ด้วยการปรับโครงสร้างทางการเงินและองค์กร รวมถึงการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และวิธีการดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งได้ทำงานและให้ความร่วมมืออย่างดีกับทางสถาบันการเงินและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อหาทางออกร่วมกัน ในที่สุดบริษัทได้ตัดสินใจเข้ายื่นร้องขอปรับโครงสร้างหนี้ผ่านการฟื้นฟูกิจการในศาล และจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ ลูกค้า พนักงาน และคู่ค้า
" บริษัทฯได้เสนอตัวเป็นผู้จัดทำและบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ โดยจะทำงานอย่างเต็มที่ร่วมกับสถาบันการเงินและตัวแทนเจ้าหนี้ ด้วยการนำประสบการณ์ที่ผ่านมาที่ได้เรียนรู้ เพื่อแก้ไขและบริหารจัดการให้บริษัทกลับสู่สภาวะปกติ”
ทั้งนี้ PACE แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2563 ได้มีมติอนุมัติให้ PACE และบริษัท เพซ คันทรี่ คลับ จำกัด (PCC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (บริษัทถือหุ้น 100%) ในฐานะลูกหนี้ ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทและ PCC ต่อศาลล้มละลายกลาง ซึ่งบริษัทได้ยื่นคำร้องแล้วในวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
สาระสำคัญมี 3 เรื่อง คือ 1. บริษัท PACE และ PCC ในฐานะลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาล 2. บริษัทและ PCC เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งในกรณีเช่นนี้หากศาลมีคำสั่งตั้งบริษัทและ PCC เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ บรรดาอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการกิจการและทรัพย์สินของบริษัทและ PCC จะตกเป็นของบริษัทและ PCC ในฐานะผู้ทำแผนตามกฎหมาย และ3. แนวทางการฟื้นฟูกิจการของบริษัทและ PCC คือการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาให้แล้วเสร็จเพื่อที่จะสามารถโอนกรรมสิทธิให้แก่ผู้จองซื้อ เบื้องต้นสถาบันการเงินได้ตกลงที่จะให้การสนับสนุนโครงการนิมิต หลังสวน เพื่อดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ หลังจากที่ศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทำแผน
ปัจจุบัน PACE มีหนี้สินรวมประมาณ 12,054 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB จำนวน 10,835 ล้านบาท และหุ้นกู้เอเซีย พลัส PACE 202 A จำนวน 1,219 ล้านบาท และมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนามี 2 โครงการ ได้แก่ โครงการนิมิตหลังสวน และโครงการมหาสมุทรมูลค่ารวม 11,750 ล้านบาท