40 ผู้นำโลกระดมทุนกว่า 8 พันล้านดอลล์ พัฒนาวัคซีนต้านโควิด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้นำกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งองค์กรผู้บริจาคต่าง ๆ ร่วมการประชุมสุดยอดผ่านระบบออนไลน์โดยมีสหภาพยุโรป (อียู) เป็นเจ้าภาพ โดยให้คำมั่นว่าจะบริจาคเงินรวมกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.6 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาวัคซีน และวิจัยด้านการวินิจฉัยและการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) 

นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า เงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อช่วยริเริ่มปฏิบัติการร่วมมือระดับโลกซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยังเป็นการแสดงถึงคุณค่าที่แท้จริงของความสามัคคีและความเป็นมนุษย์ อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า โลกยังต้องการมากกว่านี้ในอนาคตอันใกล้

การประชุมดังกล่าว มีมากกว่า 30 ประเทศ รวมทั้งองค์การสหประชาชาติและสถานบันวิจัยต่างๆ ตัดสินใจบริจาคเงิน โดยคณะกรรมาธิการยุโรป กับนอร์เวย์สมทบทุนมากที่สุดถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนฝรั่งเศส ซาอุดีอาระเบีย และเยอรมนี บริจาค 500 ล้านยูโร ขณะที่ญี่ปุ่นให้คำมั่นบริจาคถึง 800 ล้านดอลลาร์ ส่วนนักร้องชื่อดังระดับโลกอย่าง มาดอนนา ก็ร่วมบริจาคด้วยที่ 1 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ในจำนวนเงินที่บริจาคดังกล่าว 4,400 ล้านดอลลาร์  จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาวัคซีน ขณะที่ราว 2,000 ล้านดอลลาร์ จะใช้กับการวิจัยหาวิธีรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 และราว 1,600 ล้านดอลลาร์ จะใช้สำหรับผลิตชุดตรวจโรค

ด้านนายบอริส จอห์น นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่เคยเป็นผู้ป่วยโควิด-19 กล่าวว่า อังกฤษร่วมสมทบทุน 288 ล้านปอนด์ เพื่อการวิจัยวัคซีน การตรวจโรคและการหาแนวทางรักษา

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นว่า อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาวัคซีนประมาณ 12-18 เดือน ซึ่งหมายถึงกลางปี 2564  โลกจะมีวัคซีนต้านโควิด-19