กังวล สงครามการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่

กังวล สงครามการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นกว่า 42.88 จุด หรือ +3.4% หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น

ส่งผลให้เริ่มมีการทยอยคลายล็อกดาวน์เมือง นอกจากนี้ กลุ่ม ENERG ยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันโลกที่ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่วันศุกร์ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,301.66 จุด (+18.98 จุด) Volume 7.9 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,159.15 ลบ. TFEX Net -2,237 สัญญา ตราสารหนี้ -100 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+/- ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 26.07 จุด +0.11% ปิดบวกไม่มากจากความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 61 เซนต์ +3.1% ปิดที่ 20.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตรเริ่มปรับลดการผลิตเพื่อรับมือภาวะน้ำมันล้นตลาดและสหรัฐลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน 7 สัปดาห์  ติดต่อกัน

-ทองคำปรับตัวขึ้นจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนรอบใหม่

-ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากนลท.วิตกความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนหลังปธน.ทรัมป์ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนตอบโต้ที่จีนเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

-ดัชนี PMI ภาคการผลิตยูโรโซนร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

-สหรัฐเผยโควิด-19 ทำยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค.ร่วงหนัก 10.3%

-ฮ่องกงเผย GDP Q1/63 ร่วง 8.9% จากผลกระทบโควิด-19

-ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (5 พ.ค.) เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ

+กรอ.เผย ครม.ไฟเขียวยกเว้นค่าธรรมเนียมโรงงาน 56,598 แห่งทั่วประเทศ นาน 1 ปี

-กนอ.เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง  โดยเฉพาะครึ่งหลังของปี 2563

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.62 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.38 บาท/US

*จับตาการประชุมครม สหรัฐเผยยอดนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าเดือนมี.ค. ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย. และดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่เพื่อตอบโต้จีนที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่กลับมายืนเหนือระดับ 20 ดอลลาร์/บาร์เรล จะเป็นตัวช่วยพยุงตลาดบางส่วน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,270-1,300 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

แนวโน้มการลงทุนในเดือนพฤษภาคม คาดตลาดหุ้นไทยปรับฐานในกรอบ  1,200 – 1,350 จุด ระวังแรงขายทำกำไรที่ระดับ 1,300 จุด

ปัจจัยบวก

1) หลายประเทศต่างทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยเริ่มผ่อนคลาย lockdown

2) เม็ดเงินจากกองทุน SSFX ทยอยเข้ามาต่อเนื่องช่วยพยุงตลาด

ปัจจัยลบ 

1) สงครามการค้าสหรัฐ-จีน

2) Sell in May นลท.ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง 3 หมื่นลบ.

3) Valuation ตลาดหุ้นไทยแพงกว่าตลาดเพื่อนบ้าน fwd PE 15 เท่าเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาค 11-14 เท่า

ปัจจัยที่ต้องจับตา

       20 พ.ค. กำหนดประชุมครม.

       เดือนพ.ค.ไม่มีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ

หุ้นแนะนำ

กลุ่มค้าปลีก ได้รับผลดีจากผ่อนคลาย lockdown  CRC CPN MK MINT COM7

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการทยอยปลด Lockdown (BTS BTSGIF BEM CRC MC AU)
  • หุ้น mai ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลดลงอยู่ในธุรกิจขนส่ง (ATP30 VL SONIC AMA KIAT)
  • หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ MSCI มีผล 29 พ.ค. (AWC TOA KTC)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการเปิดปลดล็อกดาวน์ในกลุ่มสีเหลือง (ความเสี่ยงปานกลาง) ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรด(CRC MBK CPN HMPRO DOHOME MC RSP COM7 JMART) ร้านอาหาร (AU M ZEN MINT) คลินิกทำฟัน (D LDC)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการปลดล็อกดาวน์ในกลุ่มสีแดง (ความเสี่ยงสูง) ได้แก่  โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ร้านนวด (SPA) ศูนย์แสดงสินค้า (IMPACT)

 

หุ้นมีข่าว   

(+/-) “กสทช.-6 ค่ายมือถือ” เดินหน้ามอบสิทธิ์โทรฟรีทุกเครือข่าย 100 นาที นาน 45 วัน กดรับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 1-15 พ.ค. 63 ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนช่วงโควิด-19 พร้อมปิดโครงการกดเพิ่มเน็ตมือถือ 10 GB วันที่ 30 เม.ย. 63 ประชาชนได้รับสิทธิ์ 14.89 ล้านเลขหมาย (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) THAI ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 5 พ.ค.นี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) กระทรวงการคลัง จะนำแผนการฟื้นฟูฐานะของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม

(+) TTW (Bloomberg Consensus 14.08 บาท)  เผยไตรมาส 1/63 ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ชี้ยอดขายน้ำยังเป็นปกติ ลูกค้าภาคครัวเรือน-ภาคอุตสาหกรรมใช้น้ำต่อเนื่อง พร้อมคงเป้าปี 63 ปริมาณการขายน้ำโต 2-3% จากปีก่อนที่ทำได้ 324 ล้านลูกบาศก์เมตร (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) DOD (Bloomberg Consensus - บาท) บอร์ด DOD ไฟเขียวดึง ธนิน ศรีเศรษฐี” จาก GP Group นั่งแท่น CEO คนใหม่ ดีเดย์ 4 พ.ค.นี้ เล็งสานต่อนโยบาย One Stop Service Solution สู่การเป็นผู้นำ “Health & Beauty” ครบวงจรระดับสากล มุ่งสร้างยอดขาย-กำไรโต (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PTTEP (Bloomberg Consensus 85.09 บาท)  นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า บริษัท พีทีทีอีพี เม็กซิโก อีแอนด์พี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTTEP พร้อมทั้งกลุ่มผู้ร่วมทุนอีก 3 บริษัท ประสบความสำเร็จในการเจาะหลุมสำรวจ 2 หลุมในโครงการเม็กซิโกแปลง 29 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณน้ำลึก (Deepwater) ของประเทศเม็กซิโกโดยหลุมสำรวจหลุมแรก "โปล๊อค-1" (Polok-1) เจาะถึงระดับความลึกที่ 2,620 เมตร ค้นพบชั้นหินกักเก็บน้ำมันความหนาประมาณ 200 เมตร(ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SEAFCO (Bloomberg Consensus 7.37 บาท)  เผยคว้างานใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 210 ล้านบาท เติมงานในมือ ด้านโบรกส่องผลงาน Q2/2563 เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสแรก เนื่องจากมีการยกเลิกวันหยุดสงกรานต์ ส่งผลให้อัตราการใช้งานเครื่องจักรเพิ่มขึ้น ดันยอดรับรู้รายได้เพิ่ม พร้อมแนะนำ "ซื้อ" เคาะเป้า 7.90 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PLANB (Bloomberg Consensus 5.38 บาท)  คาดรับอานิสงส์รัฐลดระดับคลายล็อกดาวน์ ศูนย์การค้ากลับมาเปิดบริการได้ เอื้อผู้ประกอบการเดินหน้าอัดงบโปรโมตโฆษณาดันผลงานครึ่งหลังปี 2563 เด่น แถมอวดสัญญาใหม่คว้าสิทธิ์ป้ายประชาสัมพันธ์ สร้างรายได้ปีนี้ราว 90 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) INET (Bloomberg Consensus 4.60 บาท)   ธุรกิจไอทีขยาย บริการแพลตฟอร์มรองรับ Social Distancing ดีมานด์พุ่งเสริมรายได้ในอนาคต พร้อมเดินหน้าตั้งกองทุน IFF มูลค่า 3-4 พันล้านบาท คาดขายปลายปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DELTA(Bloomberg Consensus 38.96 บาท)  สัญญาณสหรัฐอเมริกา-ยุโรปจ่อคลายล็อกดาวน์หนุน บิ๊ก "อนุสรณ์ มุทราอิศ" คาดรับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า หนุนยอดส่งออกเพิ่ม พร้อมย้ำเป้าปี 2563 รายได้โต 5-10% จากปีก่อน จากดีมานด์ลูกค้าขยายตัวต่อเนื่อง ด้านโบรกเกอร์ส่องกำไรปกติปีนี้อยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท ชูพื้นฐานแกร่ง-เทรนด์เปิดเมืองกระตุ้น แนะ "เก็งกำไร" ลุ้นราคา 47.30 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

ฟิทช์ ลดอันดับเครดิตหุ้นกู้  MINT มูลค่า 15,000 ล้านบาท จากระดับ BBB+ ลงเป็นระดับ BBB จากผลกระทบไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบถึง BBL ในฐานะผู้ค้ำประกันวงเงิน 120% ของหุ้นกู้ดังกล่าว เชื่อครบกำหนดอายุ 5 ปีต้องชำระดอกเบี้ยหรือสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น จับตา NH Hotel Group แจ้งงบไตรมาส 1/63 ในสเปน 11 พ.ค.63 นี้ เสี่ยงกดดันงบแม่ กำไรลดลงตามไปด้วย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ปรับกำไร MINT ปีนี้ลง 79% (ที่มาข่าวหุ้น)

 

PTTEP (Bloomberg Consensus 85) รายงานกำไร 8.6 พันล้านบาท -31%YoY และ -26%QoQ แต่ยังสูงกว่าสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.8 พันล้านบาท โดยราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยที่ปรับตัวลง 15% จาก 4Q62 และปริมาณการผลิตปรับตัวลง 8% สู่ 363 พันบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโครงการมาเลเซียและโครงการบงกชปริมาณขายลดลงจากผู้รับซื้อก๊าซฯ ลดลง ด้านต้นทุนการผลิตปรับตัวลง 9% สู่ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ทำให้ปรับลดได้จำกัด

ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดผลประกอบการ 2Q63 จะอ่อนตัวลงต่อเนื่องตามราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำที่ 15-20 $/Oz เพราะอุปทานในตลาดโลกยังคงมากกว่าอุปสงค์ที่ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจนถึง 4Q63 ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นใกล้ราคาเหมาะสมของ Bloomberg Consensusu ที่ 85 บาท จึงแนะนำ ให้เก็งกำไรแบบมีจุดตัดขาดทุน