เปิดเมืองอย่างปลอดภัย ยึดหลักมาตรการหลัก - เสริม ป้องกันระบาดซ้ำ

เปิดเมืองอย่างปลอดภัย ยึดหลักมาตรการหลัก - เสริม ป้องกันระบาดซ้ำ

สธ.เผยแผนเตรียมเปิดกิจการ ผ่อนปรน 3 พ.ค. แนะผู้ให้บริการ ดำเนินการตามมาตรการหลัก มาตรการเสริม เปิดเว็บไซต์ Thai.care ลงทะเบียนร้านค้า ลูกค้าแสกนเช็กอิน เช็กเอาท์ เป็นข้อมูลสอบสวนโรคหากพบการติดเชื้อ กรมอนามัย แนะร้านตัดผม ตลาดนัด จัดพื้นที่ให้เหมาะสม

วันนี้ (2 พฤษภาคม) เวลา 13.00 น. สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในงาน แถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 เกี่ยวกับภาพรวมการเตรียมการเปิดกิจการตามมาตรการผ่อนปรน วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ว่า การดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าเต็มที่ในแง่ของการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราจะเห็นว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 10 มาหลายวัน

"ขณะที่สถานการณ์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีวันหยุดตามปีปฏิทิน จึงปรากฏภาพพี่น้องชาวไทยเดินทางข้ามจังหวัดเป็นจำนวนมาก ขอความร่วมมือให้ทุกคนได้ยึดถือ และอย่าประมาทในมาตรการที่ทางรัฐบาลและ สธ. ให้นโนบายในเรื่องการเว้นระยะห่าง และป้องกันตัวเอง เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงต้องป้องกันตัวเองอย่งาเต็มที่ ขอย้ำอีกครั้งเพื่อการไม่ประมาท และเราจะได้อยู่ในตัวเลขต่ำกว่า 10 ไปอีก 14 วัน เพื่อการเปิดเมืองอย่างปลอดภัย"

  • เปิดเมืองอย่างปลอดภัย

ดร.สาธิต กล่าวต่อไปว่า จากที่ได้มีการประกาศในวันที่ 3 พฤษภาคม ว่าจะทำการปลดล็อคกึ่งล็อกดาวน์ ค่อยๆ ให้มีการเปิดกิจการบางประเภท 6 กิจการนั้น หลักการของการเปิดเมืองอย่างปลอดภัยที่สำคัญ คือ อยากให้ทุกฝ่ายตระหนัก ทั้งผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ และพี่น้องประชาชน ต้องเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนในการมีสุขอนามัยที่ดี ภายใต้มาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

“ขณะที่ การสร้างบรรทัดฐานใหม่ (New Normal) ซึ่งทางกรมอนามัยมีมาตรฐานชัดเจน ในการปฏิบัติภายใต้กรอบป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อ ทั้งมาตรฐานด้านความสะอาด สร้างทีมอาสาสมัครรอบรู้สุขภาพ สื่อสารสร้างความรับรู้ เน้นการเว้นระยะห่างทางสังคม และมีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี เช่น การล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ผู้ประกอบกิจการ ต้องดำเนินการไปตามมาตรฐาน และประชาชนต้องร่วมตรวจสอบ หากไปใช้บริการและพบว่า เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด แออัด ไม่มีเครื่องป้องกัน ไม่มีเจลล้างมือ ลูกค้าสามารถดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้เกิดการปรับปรุง ให้เกิดมาตรฐาน หากไม่เชื่อฟังอาจต้องดำเนินการใช้กฎหมายตามแนวทางของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้นๆ” 

  • มาตรการหลัก-มาตรการเสริม

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร  อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้มีการจัดทำแนวทางมาตรฐาน มากกว่า 50 รูปแบบ ดำเนินการภายใต้ ศบค. มีการเตรียมการเพื่อให้มีความพร้อม รวมถึงสถานที่ที่ได้รับอนุญาตผ่อนปรนในการเปิดก่อนหน้านี้ เช่น ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร โดยมาตรการหลัก คือ ความสะอาด ทุกจุดพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเปิดกิจการได้ ต้องจัดการเรื่องความสะอาด ดูแลพนักงาน ผู้ให้บริการ ต้องมีอุปกรณ์ที่สำคัญ คือ การสวมหน้ากากอนามัยระหว่างให้บริการ มีสุขภาพที่ดี และอาจจะต้องให้ผู้รับบริการ ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้น เช่น ระหว่างรับประทานอาหาร จัดให้มีจุดล้างมือ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างมือ หรือ เจลแอลกอฮอล์ การเว้นระยะห่างทางสังคม และควบคุมจำนวนคน

158841239347

“ขณะที่มาตรการเสริม เป็นมาตรการที่ควรร่วมมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น ได้แก่ คัดกรองผู้ป่วย ไม่อนุญาตให้ใช้บริการเครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็ก ลดระยะเวลาการรอ จัดพื้นที่รอคิวห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร งดจำหน่ายสินค้าแลงดรับประทานอาหารบริเวณสวนสาธารณะ” 

  • ร้านตัดผม จัดพื้นที่เหมาะสม

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรการเสริมโดยเฉพาะ ร้านตัดผม เสริมสวย ควรดูแลตั้งแต่จุดทางเข้า ผู้ให้บริการต้องทำความเข้าใจกับพนักงาน มีอุปกรณ์เพียงพอ มีหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า หรือ Face Shield เสื้อคลุมขณะให้บริการลูกค้า จัดสิ่งแวดล้อมภายในร้าน การจัดระยะห่าง วางเตียงที่ใช้สระผมและเก้าอี้ให้บริการให้เหมาะสมในขนาดพื้นที่ เข้าระบบนัดคิว อุปกรณ์ทุกอย่างต้องทำความสะอาด ทุกชนิด ทุกรอบ ที่ให้บริการกับผู้รับบริการแต่ละคนด้วยน้ำยาทำความสะอาด เช็ดทำความสะอาดเก้าอี้ทำผม จัดเก็บเศษผม ใส่ในถุงที่ปิดปากถุงมิดชิดเพื่อทิ้งในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้

ด้านลูกค้า ต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ไม่เกิน 37.5 องศา ต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ต้องล่างมือด้วยน้ำ และสบู่ หรือ แอลกอฮฮล์เจลก่อนเข้าและออกจากร้าน ทั้งนี้ ลูกค้าควรนัดคิวเพื่อลดระยะเวลาการนั่งรอ และการต้องอยู่ในร้านร่วมกัน

“ขณะนี้เราได้นำมาตรการหลักจาก ศบค. และทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับร่วมกันในการดูแลกิจการแต่ละกิจการ เช่น ตลาด ร้านเสริมสวย ร้านอาหาร สวนสาธารณะ นันทนาการ รวมถึงมีแพลตฟอร์ม THAISTOPCOVID มีแนวทางทั้งหมด สำหรับ ผู้ประกอบการสามารถประเมินตนเองว่าพร้อมหรือยัง ขาดอะไร หรือไม่มั่นใจในจุดไหน สามารถสอบถามทีมงานได้ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง และผู้ใช้บริการ”  

  • แนะตลาดเว้นระยะแผงค้า

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการผ่อนปรนตลาดนัด โดยพื้นฐานของตลาด คือ การทำความสะอาด เนื่องจากมีการผ่อนปรน จำหน่ายสินค้าอื่นๆ นอกจากอาหารสด เป็นความสำคัญในการจัดพื้นที่แผงค้า ทุกตลาดตอนนี้ต้องกลับไปดูว่าจะมีแผงค้าที่มีระยะพอเหมาะอย่างไร เพื่อให้สามารถบริหารจัดการจำนวนคนเข้าไปได้ดีขึ้น แม้จะมีการผ่อนปรน แต่ ก็เป็นความสุ่มเสี่ยง แม้จะมีการผ่อนปรนแล้ว ก็ไม่อยากให้เกิดความแออัด ในพื้นที่ที่เราผ่อนปรนให้

  • เปิดกิจการ ต้องปลอดภัย

ด้าน นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนเรารับทราบความสูญเสียทั้งชีวิตและสุขภาพ รวมถึงสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ หากถามว่า เอกชนอยากเปิดกิจการหรือไม่ อยากเปิดมาก แต่เปิดแล้วต้องปลอดภัย หากเปิดแล้วไม่มีมาตรการรองรับ หรือมีมาตรการแต่บริหารมาตรการอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และต้องปิดอีกรอบ ความเสียหายจะมากกว่า ดังนั้น การเปิดครั้งนี้ต้องสร้างความมั่นใจทั้งประชาชน และภาคธุรกิจเองด้วย

158841239398

“มาตรการผ่อนปรนต่างๆ ที่ออกมา ได้มีการสำรวจ ในภาคเอกชน ซึ่งมองความเป็นไปได้และความเสี่ยงพร้อมๆ กัน ซึ่งเอกชนมีเครือข่ายทั้งหอการค้าจังหวัด สมาคมต่างๆ อีกกว่าร้อยสมาคม  หอการค้าต่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และทีดีอาร์ไอ ร่วมวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจ ความเป็นไปได้ เพื่อให้การออกมาตรการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดความปลอดภัย และอนามัยเป็นสำคัญ”

 

ล่าสุด กระทรวงการคลัง ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย ทำการเปิดเว็บไซต์ “เปิดเมืองปลอดภัย” Thai.care พัฒนาโดยภาคประชาชน ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับการผ่อนปรน สามารถเข้าไปจดทะเบียนได้ สะดวกไม่ยุ่งยาก ในเวลาไม่ถึง 1 นาที โดยร้านค้าสามารถปรินซ์คิวอาร์โค้ด มาติดที่หน้าร้าน ขณะที่ภาคประชาชน ที่เข้ามาใช้บริการ สามารถใช้ไลน์ แอดเพื่อน สแกนเช็กอิน และเช็กเอ้าท์ได้เมื่อใช้บริการเสร็จ  เพราะหากมีการตรวจเจอว่าติดเชื้อ จะสามารถเป็นข้อมูลสอบสวนโรคได้ภายหลัง