บลจ.ฟันธง 'เศรษฐกิจจีน' สดใส

บลจ.ฟันธง 'เศรษฐกิจจีน' สดใส

“บลจ.” เชียร์ลงทุน “หุ้นจีน” ฟันธงแนวโน้มสดใส หลังทยอยเปิดเมืองดันกิจกรรมเศรษฐกิจฟื้น ขณะ ราคาหุ้นสะท้อนข่าวร้ายไปพอสมควรแล้ว “กสิกรไทย” ผลกระทบต่อกำไรบจ.หุ้นจีนน้อยสุด หลายกลุ่มอุตสาหกรรมน่าสนใจ เชียร์ซื้อกอง "เค ไชน่า คอนโทรล โว ลาลิตี้

ด้าน ”วรรณ“ ชูกอง ”ออลไชน่า อิคคิวตี้“ ระบุชัดช่วงดอกเบี้ยต่ำ เหมาะลงทุนหุ้น ขณะ ”เคแทม“ มั่นใจเศรษฐกิจจีนฟื้นประเทศแรก ส่ง ”ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์" ลุยตลาด

ตลาดหุ้นโลกในปีนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” ซึ่งหากนับผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ตลาดส่วนใหญ่ล้วน “หดตัว” ราว 10-30% มีเพียง “ตลาดหุ้นจีน” ที่หดตัวลงน้อยสุด ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของจีนเอง มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง เพราะเป็นประเทศแรกที่ผ่านพ้นวิกฤติโควิด และเริ่มกลับมาเปิดประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ตลาดหุ้นจีนจึงถือเป็นหนึ่งหมุดหมายที่ผู้ลงทุนให้ความสนใจ

สำหรับผลตอบแทนของ “กองทุนหุ้นจีน” ทาง “มอร์นิ่งสตาร์” ระบุว่า ช่วงไตรมาสแรกปี 2563 กองทุนหุ้นจีนโดยเฉลี่ย “หดตัว” ราว 8.31% แต่ในเดือนเม.ย. ผลตอบแทนเริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทนของกองทุนหุ้นจีนโดยเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(27เม.ย.) หดตัวลดลงเหลือ 6.4% ซึ่งถือว่าหดตัวน้อยสุดเมื่อเทียบกับกองทุนหุ้นอื่นๆ ที่เฉลี่ยหดตัวมากกว่า 10% 

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นจีนถือว่ามีความน่าสนใจ เพราะหากพิจารณาด้านราคาหุ้น พบว่า จีน ได้รับผลกระทบในเรื่องของกำไรของบริษัทจดทะเบียนน้อยที่สุด นักวิเคราะห์ต่างมองว่า รายได้บจ. (Earning) ของสหรัฐจะหดตัว 20% ส่วนยุโรปคาดหดตัวถึง 25% ขณะที่จีน ยังทรงตัว คือ ไม่หดตัว และในบางเซ็กเตอร์ยังมีความน่าสนใจ ส่วนระดับราคาหุ้นจีนในปัจจุบันถือว่าค่อนข้างแฟร์และมีผลกระทบน้อยที่สุด​

สำหรับกลุ่มเซ็กเตอร์ในจีน ที่มีความน่าสนใจและยังเติบโตได้ดี เป็นกลุ่มเซ็กเตอร์ที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากโควิด คือ ออนไลน์เอ็นเตอร์เทนต์เม้นต์ ช้อปปิ้งออนไลน์ และออนไลน์เอ็ดดูเคชั่น ซึ่งเป็นกลุ่มเซ็กเตอร์ที่ค่อนข้างใหญ่ในจีนรวมถึงกลุ่มเซ็กเตอร์ที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน คลาวด์คอมพิวติ้ง ก็น่าจะมีการเติบโตและยังได้รับออเดอร์จากการลงทุนในภาคธุรกิจค่อนข้างมาก​

สำหรับคนที่เริ่มสนใจตลาดหุ้นจีนแนะนำ กองทุนเปิดเค ไชน่า คอนโทรล โว ลาลิตี้ (K-CCTV) กองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นจีน A-Shares ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นจีนคุณภาพดีและมีแนวโน้มเติบโตสูง

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ กล่าวว่า ตลาดหุ้นจีนถือว่ามีแนวโน้มเติบโตดี โดยเศรษฐกิจจีนหลังโควิด สามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่น ส่วนราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปหมดแล้ว และรัฐบาลจีนออกมาตรการมาฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังหยุดการแพร่ระบาดได้อย่างต่อเนื่อง สังเกตได้ว่าช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลง แต่หุ้นจีนลดน้อยกว่าตลาดอื่นนอกจากนี้ในอีก 10 ปีข้างหน้าทุกคนมองว่าจีดีพีจีนจะแซงสหรัฐ ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง 

นอกจากนี้ เขายังแนะนำว่า ช่วงที่ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ระดับต่ำ การลงทุนในตลาดหุ้นถือเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ ซึ่งหากสนใจลงทุนในตลาดหุ้นจีน บริษัทแนะนำ กองทุนเปิดวรรณ ออลไชน่า อิคคิวตี้ (One-All Chaina ) เป็นกองทุน Fund of Funds นโยบายกองทุนหลัก เน้นลงทุนในหุ้นจีนที่จดทะเบียนทั้งในและนอกตลาดหุ้นจีน มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนสัดส่วนปัจจุบัน 80% โดยลงทุนในหุ้นที่มองไปในอนาคต

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย(KTAM)  กล่าวว่า กองหุ้นจีน ยังน่าสนใจเข้าลงทุนในช่วงนี้ โดยเฉพาะหลังจากจีนเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้เป็นประเทศแรก ยังคงแนะนำ กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-China –A ) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ BGF China Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มีการบริหารแบบเชิงรุก (actively managed) 

โดย BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนระดับโลกองทุนหลักบริหารแบบเชิงรับ (passively managed) และมุ่งสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี CSI 300 ซึ่งประกอบด้วยหุ้น A-Shares ขนาดใหญ่สภาพคล่องสูง 300 ตัวในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น