ศาลอุทธรณ์พลิก! 'คดีอ่างวิคตอเรียซีเครท' ชี้ 'ค้ามนุษย์-อาชญากรรมข้ามชาติ'

ศาลอุทธรณ์ กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุก "ป๋าติ๊ก-ป๋ากบ-น้องสาวเสี่ยงกำพล" ร่วมกันค้ามนุษย์นำเด็ก 12 ขวบ ค้ากาม "อ่างวิคตอเรียซีเครท" เพิ่มโทษ

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.63 ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีค้ามนุษย์อาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท คดีหมายเลขดำ คม.25/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเฉลียว จันทร์พิมพ์ หรือ เอส จำเลยที่ 1, นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ จำเลยที่ 2, นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือ ป๋าติ๊ก อายุ 67 ปี ผู้จัดการสถานบริการ จำเลยที่ 3, น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ น้องสาวนสยกำพล วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการมีอำนาจใน หจก.อมรินทร์ ออนเซน ที่ขอใบอนุญาตดำเนินกิจการ จำเลยที่ 4, หจก.อัมรินทร์ ออนเซน จำเลยที่ 5, นายเดชา สิงห์สาครเดชา หรือ หนู จำเลยที่ 6 ในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี, พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปีจากประเทศเมียนมา ถูกนำมาส่งประเทศไทย และพามาขายบริการที่วิคตอเรียซีเครท และพาเด็กหญิงไปขายบริการที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อแสวงหาประโยชน์จากหญิงเมียนมาร์ ด้วยการบังคับให้ค้าประเวณี อันเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายหญิงชาวเมียนมา อายุเพียง 12 ปี เนื่องจากเกิดพ.ศ.2544 และถูกนำมาขายบริการในพ.ศ.2556 จึงพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งหมดในข้อหาค้ามนุษย์ โดยจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 8 ปี 4 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2-4 คนละ 16 ปี ส่วนจำเลยที่ 6 จำคุก 10 ปี 8 เดือน และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายรวมเป็นเงิน 2,100,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 6 ยังมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในฐานาเป็นคนพาเด็ดหญิงไปส่งนายหน้าเพื่อนไไปขายบริการที่ประเทศมาเลเซีย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่วนกรณีศาลชั้นต้นพิพากษา ว่า นายกำพล นางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ไม่มีความผิดฐานค้ามนุษย์และความผิดฐานอื่นๆ นั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า โจทก์ไม่ได้ฟ้องบุคคลทั้ง 3 เข้ามาในคดี การวินิจฉัยถึงบุคคลที้ง 3 เป็นคำวินิจฉัยที่มิชอบ

ด้านนายรณสิทธิ์ พฤกษายาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กและสตรี บอกว่า รู้สึกภาคภูมิใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ที่ได้คืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายคดีค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งตอนนี้ถือว่า ที่ผ่านมาสาวนตัวได้ต่อสู้เพื่อความถูกต้องให้กับผู้เสียหายเหล่านี้อย่างเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เป็นสิทธิ์ของจำเลยในการยื่นฎีกาต่อไป