เมื่อผู้นำป่วย

เมื่อผู้นำป่วย

เมื่อมีข่าวการเจ็บป่วยของผู้นำประเทศ 2 คน แต่การเปิดเผยข่าวสารแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อันเป็นผลจากระบบการเมืองของทั้ง 2 ประเทศ

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ เมื่อเช้าวานนี้ (29 เม.ย.) จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ทั่วโลกอย่างน้อย 3,113,447 คน เสียชีวิตอย่างน้อย 216,930 คน เรียกได้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เล่นงานพลเมืองโลกอย่างไม่แบ่งชั้นวรรณะ และในช่วงนี้มีข่าวการเจ็บป่วยของผู้นำประเทศ 2 คน ที่การเปิดเผยข่าวสารแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเป็นผลจากระบบการเมืองของทั้ง 2 ประเทศ

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. โฆษกรัฐบาลอังกฤษแถลงว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาได้ผลเป็นบวก มีอาการป่วยเล็กน้อย ต้องกักตัวเอง 14 วัน ระหว่างนั้นยังบัญชาการผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ นำคณะรัฐมนตรีทำงานต่อสู้กับโควิด-19 ที่เล่นงานสหราชอาณาจักรอย่างหนักหน่วง

นายกฯ อังกฤษกักตัวเองอยู่ที่ทำเนียบเลขที่ 10 ถนนดาวนิงได้ 10 วัน อาการไม่ดีขึ้น จำต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเซนต์โทมัสในกรุงลอนดอน เข้าไปได้วันเดียวเกิดอาการหนักต้องเข้าห้องไอซียู ระหว่างนั้นนายกฯ จอห์นสันได้มอบหมายให้ โดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่แทน ถ้าร้าบติดโควิด-19 ไปอีกคน ก็ถึงทีริชี ซูนัก รัฐมนตรีคลังต้องขึ้นมารักษาการนายกฯ แทน

รักษาตัวอยู่ราว 1 สัปดาห์หมออนุญาตให้กลับบ้าน ไปพักฟื้นที่คฤหาสน์เชคเกอร์ส บ้านพักชนบทประจำตำแหน่งนายกฯ ในเขตบักกิงแฮมเชอร์ระยะหนึ่ง เพิ่งจะกลับมาทำงานเมื่อวันจันทร์ (27 เม.ย.) ที่ผ่านมา ตลอดเวลาการเจ็บป่วยของจอห์นสัน ประชาชนทั้งโลกรับรู้ข้อมูลทุกอย่าง

ตัดภาพไปที่ประเทศเกาหลีเหนือ ตลอด 1 สัปดาห์มีข่าวหนาหูเรื่องสุขภาพของ "คิม จองอึน" ผู้นำสูงสุด ที่ลือกันหนักถึงขนาดที่ว่าเสียชีวิตไปแล้ว เรื่องของเรื่องคือ คิมร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 11 เม.ย. แล้วก็หายหน้าไปเลย แม้แต่วันที่ 15 เม.ย. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดคิม อิลซุง ผู้สถาปนาประเทศเกาหลีเหนือ ปู่ของคิม จองอึน และเป็นงานใหญ่ประจำปีของประเทศ คิมผู้หลานก็ไม่มาร่วมงาน

20 เม.ย. เดลี่ เอ็นเค เว็บไซต์ข่าวของเกาหลีใต้ รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวเกาหลีเหนือที่ไม่อาจเผยชื่อหลายราย ให้ข่าวว่า คิมเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 12 เม.ย.เพื่อรับการผ่าตัดเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ วันรุ่งขึ้นซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่า สหรัฐกำลังติดตามตรวจสอบข่าวกรองที่ว่านายคิมกำลังป่วยหนักหลังรับการผ่าตัด

ถึงระดับซีเอ็นเอ็นรายงานทั่วโลกจึงจับตามอง ขณะที่สื่อทางการเกาหลีเหนือยังไม่รายงานข่าวใดๆ เกี่ยวกับสุขภาพหรือแหล่งที่อยู่ของคิม จอง อึน ยิ่งชวนให้สงสัย สื่อต่างชาติหลายสำนักพากันคาดเดาไปว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับเกาหลีเหนือเมื่อไม่มีผู้นำคิม หรือใครจะเป็นผู้นำคนต่อไปหากเขาเสียชีวิตลงไปจริงๆ

ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ มีแต่ผู้นำที่เกี่ยวข้องออกมาให้ข่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐยืนยันว่า ผู้นำเกาหลีเหนือยังมีชีวิตอยู่ เช่นเดียวกับมูน ชุง อินที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยว่า คิม จอง อึน ยังมีชีวิตและสบายดีอยู่ พักอยู่ที่เมืองวอนซาน ทางตะวันออกของประเทศมาตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. ถัดมาหนึ่งวันรัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คิมไม่ออกมาร่วมงานใหญ่ประจำปี เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่โควิด-19ระบาด

ถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดเกี่ยวกับผู้นำเกาหลีเหนือ แต่หากเปรียบเทียบ 2 กรณีระหว่างบอริส จอห์นสัน และคิม จองอึน จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนถึงความโปร่งใสของข้อมูลจากการเมืองในระบบเปิดและระบบปิด ผู้นำเจ็บป่วยแค่ไหน พักอยู่แห่งหนตำบลใด เป็นเรื่องที่ประชาชนควรได้รับรู้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิด และถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากเป็นพลเมืองในระบบปิดที่มีสิทธิรู้แค่ข้อมูลที่รัฐอยากให้รู้เท่านั้น