สธ.แนะสวมใส่หน้ากากอนามัยหลัง3 พ.ค.ผ่อนปรนบางมาตรการผู้ป่วยโควิด-19อาจพุ่งสูงขึ้นอีก

สธ.แนะสวมใส่หน้ากากอนามัยหลัง3 พ.ค.ผ่อนปรนบางมาตรการผู้ป่วยโควิด-19อาจพุ่งสูงขึ้นอีก

 สธ.เผยสถานการณ์โควิด -19 อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่หลังวันที่ 3 พฤษภาคม จะเริ่มมีการผ่อนปรนบางมาตรการก็ขอให้ ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม ไม่อย่างนั้นผู้ป่วยโควิด-19อาจพุ่งสูงขึ้นอีกได้

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด -19 ว่า ช่วงนี้เรามีผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแค่ 7 คน ในจำนวนนี้มี 4 คน ที่เจอจากการค้นหาในชุมชนโดยทีมงานสาธารณสุขในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต 3 คน กระบี่ 1 คน เป็นคนที่มีอาการน้อย บางคนเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ แต่การดำเนินงานเชิงรุกทำให้พบผู้ป่วยกลุ่มนี้จากการออกไปค้นหาการตรวจคัดกรอง และกลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 3 คน ที่รัฐบาลรับตัวคนไทยที่กลับจากประเทศเฝ้าดูอาการ 14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการแพร่เชื้อหรือถ้ามีการรับเชื้อก็จะสามารถตรวจพบเข้าถึงการรักษาได้เร็ว ขณะเดียวกันปลอดภัยคนที่อยู่ในชุมชนด้วย ตอนนี้ ผู้ป่วยทั้ง 3 คน ได้รับการรักษาแล้วในโรงพยาบาล.

นพ.โสภณ บอกว่า ตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่สัปดาห์ที่ 18 ปลายเดือนเมษายน 2563 ซึ่งถ้าดูย้อนกลับไป 4 สัปดาห์ช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน เป็นช่วงที่มีผู้ป่วยจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย กว่า 700 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ติดเชื้อจากผู้ป่วยรายก่อนหน้าและผู้ที่สัมผัสใกล้ชิด ประมาณ 329 คน / ผู้ป่วยที่มีอาชีพเสี่ยง ทำงานในพื้นที่แออัด 77 คน และคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 93 คน ถือเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 

158824140080

ซึ่งสัปดาห์ถัดมา ระหว่างวันที่ 5-11 เมษายน ลักษณะประเทศไทยเริ่มมีระบบการกักกันในสถานที่รัฐกำหนด ตรงนี้ทำให้พบผู้ป่วยที่กลับจากต่างประเทศถูกนำตัวมาพักที่รัฐจัดให้ อีก 56 คน ร่วมกับผู้ป่วยก่อนหน้า 83 คน หลังจากที่รัฐบาลดำเนินการมีการประกาศ ห้ามอากาศยานสายการบินเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 เมษายน ประเทศก็มีผู้ป่วย ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรการที่ดำเนินการก็ทำให้กลุ่มผู้ป่วยที่เคยเป็นผู้ป่วยจำนวนมากคือ สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า / ไปพื้นที่เสี่ยง หรือกลับจากต่างประเทศลดน้อยลงเรื่อยๆตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เรามีจำนวนผู้ป่วยประเทศไทยน้อยที่สุดช่วงหนึ่ง.

อย่างไรก็ตาม นพ.โสภณ กล่าวอีกว่าแต่หลังวันที่ 3 พฤษภาคม รัฐบา่ลจะเริ่มมีการผ่อนปรนบางมาตรการให้กิจการบางประเภทกลับมาเปิดได้ แม้ว่าจะยังไม่เปิดกิจการครบทั้งหมด แต่ก็จะมีผู้คนออกมาพบปะกันมากขึ้นในระดับหนึ่ง ประชาชนยังคงต้องป้องกันตัวเองด้วยการใช้หน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมืออยู่  สิ่งสำคัญคือการจำกัดจำนวนคนเข้าใช้บริการเพื่อทำให้สถานที่นั้นๆมีความปลอดภัยมากที่สุด เพื่อลดการแพร่เชื้อเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่อย่างนั้นผู้ป่วยโควิด-19อาจพุ่งสูงขึ้นอีก

"ระยะเวลาจากนี้ไปเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเตรียมตัวเพื่่อว่าวันที่ 3  พฤษภาคมที่มีการผ่อนปรนบางกิจการให้มาเปิดดำเนินการได้ ประชาชนก็จะมีความพร้อมกลับมาใช้ชีิวิตได้ใกล้เคียงจากเดิม มีความเครียดน้อยลง แต่อย่างไรก็จะต้องป้องกันตัวเองด้วยการใช้หน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมืออยู่เป็นประจำ ถ้าป่วยก็กันตัวเองให้ห่างออกมาจากสังคม ใส่หน้ากากอนามัยและไปพบแพทย์ เพื่อลดการแพร่เชื้อ ยังคงรักษามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่อย่างนั้นผู้ป่วยโควิด-19 อาจจะกลับมาอาจพุ่งสูงขึ้นอีกและเราก็จะกลับมาอยู่ในสถานการณ์ระบาดอีกได้"