ขึ้นต่อ แต่น่าจะมีแรงขายสวนมามากขึ้น ก่อนหยุดยาว

ขึ้นต่อ แต่น่าจะมีแรงขายสวนมามากขึ้น ก่อนหยุดยาว

SET วันนี้จะเผชิญแรงขายสลับออกมาพอสมควร เนื่องจาก valuations ของตลาดหุ้นที่ตึงตัวค่อนข้างมาก

KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ปรับขึ้นต่อ คาดว่าตลาดหุ้นจะมีรูปแบบเหมือน 3 วันที่ผ่านมาคือบวกแต่ผันผวนในวันค่อนข้างมาก ตามระดับความสูงของดัชนีฯ... ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศวันนี้ เป็นบวกมากขึ้นในหลายมิติ กล่าวคือ i) ความคาดหวังต่อยารักษา Covid-19 กลับมาอีกครั้ง หลังจากศูนย์
โรคติดต่อสหรัฐฯ (CDC) แถลงว่าผลทดสอบรอบล่าสุดของยา Remdesivir ให้ผลดี และโดนัลด์ ทรัมป์เร่งรัดให้ทางการอนุมัติยาตัวดังกล่าวเพื่อใช้ในวงกว้างได้ ซึ่งประเด็นข่าวนี้ผนวกกับการทยอยเปิดเมืองและเปิดธุรกิจในสหรัฐฯ และยุโรป น่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นโลกและหุ้นไทยต่อ ii) การประชุม ธ.กลาง
สหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวานนี้ มีมติคงดอกเบี้ยใกล้ 0% และคงมาตรการพิเศษต่างๆ ไว้ทั้งหมด (ตามคาด)และเฟดชี้ว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันจนกว่าการจ้างงานของสหรัฐฯ จะกลับสู่ภาวะปกติ iii) ราคาน้ำมันดิบ WTi แรลลี่มากกว่า 15% เมื่อคืนนี้ ตามตัวเลขสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ consensus คาด ขณะที่ประเด็นของการเปิดเมืองและพัฒนาการของยารักษา Covid-19 ทำให้มุมมองต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ดีขึ้นเล็กน้อย... อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ มองว่า SET วันนี้จะเผชิญแรงขายสลับออกมาพอสมควร เนื่องจาก valuations ของตลาดหุ้นที่ตึงตัวค่อนข้างมาก ผนวก
กับตลาดหุ้นไทยมีวันหยุดยาว 4 วัน (1-4 พ.ค.) น่าจะมีแรงขายลดความเสี่ยงจากปัจจัยไม่แน่นอนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเปิดเมืองของฝั่งตะวันตก ซึ่งอาจตามมาด้วยการเร่งตัวของการติดเชื้อ Covid-19 รอบใหม่ได้เช่นกัน

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร TOP*, EP, JMART

- TOP* (เป้าพื้นฐาน 55 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 38.25 บาท / แนวต้าน 41.5 - 43.5 บาท (Trailing stop 37.5 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกการที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะทำให้ Demand พลังงานเริ่มฟื้นตัวผ่านจุดตํ่าสุด 3) ฝ่ายวิจัยฯประเมิน Downside ด้าน
ราคาหุ้นจำกัด แม้ว่าจะคาด 1Q63 จะรายงานผลขาดทุนสุทธิถึง 1.48 หมื่นล้านบาท (ขาดทุนสต็อก)เพราะ i) คาดผลการดำเนินงาน 2Q63 จะฟื้นดีขึ้น (Downside การขาดทุนสต็อกน้ำมันลดลง, ค่าการกลั่นดีขึ้น , ต้นทุนน้ำมันดิบลดลง) และ ii) ในด้าน Asset based valuation น่าสนใจด้วย PBV 0.67
เท่า เป็นระดับ -3 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

- EP (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.34 บาท และ 3.30 บาท / แนวต้าน 3.50 - 3.64 บาท (Trailing stop 3.28 บาท) 2) ประเมิน Valuation จะถูก Re-rate ขึ้น หลังการเปลี่ยนจากกลุ่มสิ่งพิมพ์มายังกลุ่มพลังงาน (โรงไฟฟ้า) โดย PE ปี 2563 ยังต่ำเพียง 11.3 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่ม
โรงไฟฟ้าที่ PE เฉลี่ย >25 เท่า ... ปัจจุบัน EPCO มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น>200MW และยังมีแผนลงทุนเพิ่ม 3) Upside จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก ที่เพิ่งเริ่มเดินเครื่องผลิตปลายปีที่ผ่านมารับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงสั่งสินค้าออนไลน์เพิ่ม

- JMART (เป้า Consensus 12.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 8.0 บาท และ 7.9 บาท / แนวต้าน 8.55 - 9.0 บาท (Trailing stop 7.8 บาท) 2) ประเมิน Upside การปรับประมาณการฯในอนาคตจากการเข้าร่วมลงทุนทุนใน บ.ลูก เจ ฟินเทค ของสถาบันการเงินจากเกาหลีใต้ (KB Kookmin Card) 3) บ.ลูกอย่าง JMT* และ SINGER คาดผลการดำเนินงานยังเติบโต (รับอานิสงส์มาตรการภาครัฐฯ + ดอกเบี้ยต่ำ) ขณะที่ธุรกิจขายมือถือและอุปกรณ์ คาดรับ Sentiment บวกจากการทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และคาด Cycle การเปลี่ยนมือถือเป็น 5G รอบใหม่จะเร็วขึ้นกว่าเดิมที่คาด

หุ้นมีข่าว

(+) THAI* กู้ 5 หมื่นล้าน คลังลดถือหุ้นต่ำ 50% ชงครม.อนุมัติ 5 พ.ค. สหภาพฯสูญสถานะ (ข่าวหุ้น) คมนาคมชงแผนฟื้นฟูการบินไทยเข้าครม. 5 พ.ค.นี้ กู้ในประเทศ 5 หมื่นล้าน คลังค้ำประกันทุกบาทเสริมสภาพคล่องเดือน พ.ค.นี้ ขณะที่คลังลดสัดส่วนถือหุ้นต่ำกว่า 50% ขายให้กองทุนวายุภักษ์ และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ประมาณ 2-3% หลุดจากพ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจ กลายเป็นรัฐวิสาหกิจกลุ่ม 3 ส่งผลให้สภาพแรงงานการบินไทยหมดสถานะทันที ก่อนโละบอร์ดทิ้งเลือกดีดีคนใหม่

(+) BAFS ดีเดย์เปิดหัวจ่ายนํ้ามัน รองรับเส้นทางบินในประเทศ (ทันหุ้น) BAFS ดีเดย์เปิดหัวจ่าย "Jet Fuel" (1 พ.ค.63) รองรับสายการบินกลับมาเทกออฟเส้นทางบินในประเทศ ผู้บริหาร "ประกอบเกียรตินินนาท" ชี้หุ้นหนุนดีมานด์เติมน้ำมันครึ่งปีหลังฟื้นตัว พร้อมเดินหน้าโครงการระบบบริการเติมน้ำมันเชื้อ เพลิงอากาศยานที่สนามบินอู่ตะเภา ขยายฐานโกยเงินเพิ่ม

(+) RATCH*-เน็กส์ซิฟฯ ปิดดีลเงินกู้ สร้างโรงไฟฟ้าที่ระยอง 92 MW (ข่าวหุ้น) RATCH*-เน็กส์ซิฟเอ็นเนอร์จี” ประกาศปิดดีลเงินกู้ โครงการโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง ขนาด 92 เมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าก่อสร้าง

(+) TK จัด 450 ล้านบ. ซื้อกิจการ MFIL อัพรายได้ตปท. (ทันหุ้น) TK ทุ่ม 450 ล้านบาท ซื้อกิจการ MFIL ผู้ให้บริการสินเชื่อในเมียนมา ลุยขยายกิจการแบบก้าวกระโดด คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2563 ดันสัดส่วนสินเชื่อต่างประเทศเพิ่มเป็น 30%

(+) TQM ผนึก BKI เจาะตลาดฟรีแลนซ์ (กรุงเทพธุรกิจ) "ทีคิวเอ็ม-กรุงเทพประกันภัย" เจาะกลุ่มฟรีแลนซ์ นำแบบประกันมนุษย์เงินเดือนมาปรับ ชูความคุ้มครองพิเศษ เบี้ย ไม่แพง ผ่อนชำระได้ หวังช่วยสร้างหลักประกันรับความเสี่ยง ตั้งเป้าเบี้ยปีนี้โต 40% แตะระดับ 1.2 พันล้าน