SCC - ถือ

SCC - ถือ

ผลประกอบการ 1Q ใกล้เคียงกับที่คาด ยังคงต้องระมัดระวัง

  • key highlights

กำไร 1Q ที่ 7พันล้านบาท (EPS Bt5.8) -2%qoqและ -40%yoy

ผลการดำเนินงานใกล้เคียงกับการประมาณการของเรา การลดลง qoq และyoy มาจากธุรกิจเคมีที่อ่อนตัวลง ซึ่งคิดเป็น 26% ของกำไรทั้งกลุ่มซึ่งลดลง -37%qoq และ -70%yoy การลดลงของราคา naphtha (-US$100/t) ทำให้ spread ของ PE และ PP เพิ่มขึ้น 32% สู่ระดับ US$398/t และ 7%qoq สู่ระดับ US$551/t ตามลำดับ แต่การเพิ่มขึ้นของ Spread ถูกหักล้างโดย stock loss (1.1พันล้านบาท เทียบกับการประมาณของเราที่ 765ล้านบาท) รวมทั้งปริมาณขาย PE และ PP ที่ลดลง 36,000 ตันqoq สู่ระดับ 421,000 ตัน ความต้องการปูนซีเมนต์ที่ลดลง -5%yoy (เทียบกับประมาณการของเราที่ -6%) ความต้องการจากภาครัฐบาล (ราว40%ของความต้องการทั้งหมด) ลดลง -7%yoy ในขณะที่ภาคที่อยู่อาศัย -3%yoyและภาคการค้าที่ -5% ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2%yoy สู่ระดับ 1,800-1,850บาทต่อตัน จากการที่บริษัทขายผลิตภัณฑ์แบบcustomizeมากขึ้น สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง จากรายได้ที่เติบโตขึ้น 5%qoq และ 15%yoy โดยการเติบโต yoy มาจากการรวมกิจการ Fajar ในอินโดนิเซียและ Visy ในประเทศไทย กำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น 45%qoq (จากการแข่งขันด้านราคาในอินโดนิเซียไตรมาสที่แล้ว) และ7%yoy

 

  • Guidance: cautious, challenging prospects due to Covid-19

การเลื่อนปิดโรงงาน MOC ไปสู่ 4Q (จาก 2Q) เนื่องจากความกังวล Covid-19

SCC ได้ตัดสินใจเลื่อนการปิดโรงงาน MOC (900kt for ethylene, 800kt propylene) เพื่อซ่อมบำรุงราว 45 วันไปสู่ 4Q เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดในการทำงาน โดยผู้บริหารได้มองเห็นความท้าทายและความไม่แน่นอนจากการที่ยังไม่เห็นผลกระทบที่มากที่สุดของ Covid-19 โดยจะกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์เคมี ในอุตสาหกรรมรถยนต์และสินค้าคงทน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ PP ในขณะที่ระดับน้ำในแหล่งน้ำในระยองลดลงสู่ระดับต่ำ SCC ยังคงแผนการลงทุนราว 5.5-6.5 หมื่นล้านบาท (ครึ่งนึงสำหรับ LSP) ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนได้หากมีความจำเป็น ส่วนความต้องการปูนซีเมนต์จะยังคงอ่อนแอต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือของปีแต่ราคาจะยังคงอยู่ในระดับเดิมใน 2Q และ SCC จะยังคงขายผลิตภัณฑ์แบบ customized ซึ่งจะสามารถขายในระดับราคาที่สูงขึ้นได้

 

  • Recommendation

เรายังคงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมาย 350 บาทต่อหุ้นด้วยวิธี DCF เทียบเท่า 14.3x FY20F PE และผลตอบแทนเงินปันผลที่ 3.5% เราคงมุมมองระมัดระวังสำหรับกำไรของ SCC เนื่องจากอัตรากำไรของผลิตภัณฑ์เคมีถึงจุดต่ำสุด รวมทั้งการขาดปัจจัยหนุนกำไรในระยะสั้น เราจึงคงคำแนะนำถือ พร้อมราคาเป้าหมาย 350บาท เทียบเท่า 14.3x FY20F PE และให้ผลตอบแทนเงินปันผล 3.5%