'ธนกร' แจงรัฐกู้ 1 ล้านล้าน โต้ 'หญิงหน่อย' อย่าบิดเบือน

'ธนกร' แจงรัฐกู้ 1 ล้านล้าน โต้ 'หญิงหน่อย' อย่าบิดเบือน

"ธนกร" แจงรัฐบาลกู้ 1 ล้านล้าน ไม่ใช่ 1.9 ล้านล้าน ยันใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ โต้ "คุณหญิงสุดรัตน์" อย่าบิดเบือน

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 63 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ระบุว่ารัฐบาลกู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท พรรคเพื่อไทยจะไม่ให้ใช้อย่างไร้ประสิทธิภาพและไม่โปร่งใส ว่า ตนไม่เข้าใจ คุณหญิงสุดารัตน์ ว่าทำไมจึงออกมาพูดบิดเบือนข้อมูล ยืนยันว่ารัฐบาลกู้เงินจำนวน 1 ล้านล้านบาท ไม่ได้กู้ 1.9 ล้านล้านบาท ตามที่ คุณหญิงสุดารัตน์ พูด

ทั้งนี้ รัฐบาลออกพระราชกำหนด 3 ฉบับ ซึ่ง 1 ใน 3 ฉบับคือ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ. 2563 ซึ่งให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อรองรับการช่วยเหลือและเยียวยาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และฟื้นฟู ดูแลเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุมถึงการพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่พระราชกำหนดอีก 2 ฉบับเป็นการให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยในการให้ soft loan หรือให้กู้แก่สถาบันการเงินในอัตรา 0.1% เพื่อให้สถาบันการเงินไปปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือ SMEs ในอัตรา 2% วงเงิน 500,000 ล้านบาท และซื้อขายหน่วยลงทุนในกองทุนเพื่อรักษาเสถียรภาพตราสารหนี้ภาคเอกชนเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและรักษาการจ้างงาน วงเงิน 400,000 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐบาลกู้เงินเพียง 1 ล้านล้านบาท ไม่ใช่ 1.9 ล้านล้านบาทตามที่ คุญหญิงสุดารัตน์ กล่าวอ้าง

นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวหารัฐบาลว่า ตีเช็คเปล่าก็ไม่เป็นความจริง เพราะในพระราชกำหนดกู้เงินรัฐบาลได้กำหนดให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ โดยมีเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ เป็นประธาน และมีปลัดสำนักนายกฯ ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกรฐมนตรี แต่งตั้งเป็นกรรมการ เพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองและกำหนดวงเงินตามบัญชีแนบท้ายพระราชกำหนดก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา นอกจากนี้ พระราชกำหนดกู้เงินยังกำหนดให้กระทรวงการคลังมีหน้าที่รายงานการกู้เงินตามพระราชกำหนดที่ได้ทำในปีงบประมาณที่ผ่านมาให้รัฐสภาทราบ โดยรายงานดังกล่าวอย่างน้อยต้องระบุรายละเอียดของการกู้เงิน วัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินกู้ รวมถึงผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ได้รับหรือคาดว่าจะได้รับภายใน 60 วัน นับแต่วันสิ้นปีงบประมาณด้วย

ดังนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ อย่าพูดลอยๆ ให้ตัวเองเป็นนางเอก แต่รัฐบาลเป็นผู้ร้าย ทั้งที่จริงแล้วรัฐบาลคือพระเอกในใจประชาชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ขอให้เชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม