วิกฤติโควิด-19 ย้ำความสำคัญ ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’

วิกฤติโควิด-19 ย้ำความสำคัญ ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’

‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ ถูกยกระดับความสำคัญขึ้นทันที เมื่อมีปริมาณข้อมูลดิจิทัลหลั่งไหลอย่างมหาศาลช่วงการระบาดของโรคโควิด-19

ธุรกิจต้องปรับตัว ทำงานจากทางไกล ร้านค้าออนไลน์กลายเป็นช่องทางหาซื้อสิ่งจำเป็น การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ทางสังคมผันสู่ออนไลน์ ธุรกิจต้องปรับตัว ทำงานจากทางไกล ร้านค้าออนไลน์กลายเป็นช่องทางหาซื้อสิ่งจำเป็น การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ทางสังคมผันสู่ออนไลน์ทั้งหมด

“ศักดิ์ดา แซ่อึ้ง” ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคฝ่ายโซลูชันข้อมูลและการสื่อสารประจำ บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ขณะที่โลกที่ต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 โซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์พร้อมใช้งานและบริการครบวงจรจากซัพพลายเออร์มืออาชีพ คือ กุญแจสำคัญที่ช่วยผู้ปฏิบัติงานให้พร้อมวางแผนตั้งรับจัดการกับภาวะวิกฤติได้ดีขึ้น

"ความต้องการใช้งาน ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่แข็งแกร่ง และนโยบายประเทศไทย 4.0 เดลต้าฯ เชื่อมั่นศักยภาพของไทยในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้" 

ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ใช้งานอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ต่อประชากร สูงถึง 134% และคนไทยกว่า 52 ล้านคนใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่บนโลกออนไลน์นานถึง 9 ชั่วโมงต่อวัน และสถานการณ์วิกฤติทางสาธารณสุข ยิ่งทำให้คนใช้งานออนไลน์เพิ่มมากขึ้นและนานขึ้น

รายงานเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกูเกิล ประจำปี 2562 พบว่า เศรษฐกิจบนอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 5 แสนล้านบาท และคาดว่าจะโตขึ้น 3 เท่าภายในปี 2568 มากกว่า 1.5 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ คาดว่า จะเห็นการพัฒนาด้านดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ของภาครัฐอย่างต่อเนื่องในไทย รวมถึงการลงทุนระบบคลาวด์ภาคเอกชน และธุรกิจการเช่าพื้นที่วางเซิร์ฟเวอร์ ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ผู้ให้บริการประเภทโคโลเคชั่น จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของธุรกิจธนาคาร โทรคมนาคม และอีคอมเมิร์ซ สร้างมูลค่าและโอกาสใหม่ๆ ในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ได้มาก

158817337116

"เราเห็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และผู้ให้บริการระบบคลาวด์ระดับโลกเปลี่ยนจากการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ของตัวเอง สู่ผู้ให้บริการอิสระด้านศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แบบเช่าพื้นที่โคโลเคชั่น หรือ แมเนจ เซอร์วิส เพื่อรับมือการบริหารจัดการและประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มอย่างรวดเร็ว ทั้งประหยัดต้นทุน สร้างกำไรสูงสุด"

เห็นได้ว่าความต้องการด้านปริมาณและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล คือ สองปัจจัยหลักขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ไปสู่ไฮบริดมากขึ้น ซึ่งจะรวมเอาข้อดีและข้อเสียของทั้งระบบคลาวด์และระบบเซิร์ฟเวอร์ในองค์กรเข้าด้วยกัน 

ดาต้าเซ็นเตอร์แบบไฮบริด สามารถเก็บและประมวลผลข้อมูลสำคัญที่เป็นความลับของธุรกิจไว้ที่ตัวศูนย์ข้อมูลเอง และจัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลมัลติคลาวด์ได้ การพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์จึงเปลี่ยนสู่รูปแบบของศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กพร้อมใช้งาน ตั้งอยู่ในหลายสถานที่ มากกว่าจะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียว

ขณะที่ การมาของ 5จี ในไทยมีนัยยะมากกว่าการส่งรับข้อมูลที่รวดเร็ว แต่คือการเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ หรือไอโอที ซึ่งอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะจำเป็นต้องพึ่ง 5จี เพื่อประสานและประมวลผลได้แบบเรียลไทม์ และใช้บิ๊กดาต้าช่วยตัดสินใจ

นอกจากนี้ ไอโอที ยังเข้ามากระตุ้นให้เกิดดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งขนาดเล็กและผู้ให้บริการแบบเช่าพื้นที่เซิร์ฟเวอร์ โคโลเคชั่นรายใหม่มากมาย แทนที่ความจำเป็นของดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่เช่นในอดีต คาดว่า ภายในปี 2566 อุปกรณ์ไอโอที จะแพร่หลายไปทุกหนแห่งกลายเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนอุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมกับอินเทอร์เน็ต และคาดว่าปี 2564 ครึ่งหนึ่งของการประมวลผลข้อมูลทั้งหมดจะประมวลผลองค์กรภายนอกศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์

นายศักดิ์ดา กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์ ได้ชื่อว่าโดดเด่นด้านดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แหล่งจ่ายพลังงานที่น่าเชื่อถือ และสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสิงคโปร์ได้หยุดออกใบอนุญาตดาต้าเซ็นเตอร์แล้ว เนื่องจากมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ๆ

ถัดจากสิงคโปร์ อีกหนึ่งประเทศที่มีความโดดเด่นมาก คือ ไทย เนื่องจากทำเลตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอื้อต่อการขยายโอกาสเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และมีเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีนโยบายดึงดูดการลงทุนมากมาย อยู่ใกล้เคเบิลใต้น้ำไม่เกิน 30 กิโลเมตร และอยู่เหนือระดับน้ำทะเลมากกว่า 100 เมตรเพื่อป้องกันภัยน้ำท่วม

"ดาต้าเซ็นเตอร์ประเภทพร้อมติดตั้งใช้งาน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในไทยในเร็ววันนี้ ขณะที่ การเข้าสู่ยุคไอโอที และนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ เหล่านี้ คือ โอกาสอันน่าสนใจในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย" นายศักดิ์ดา กล่าว