รัฐบาล-พปชร. 'ศึกในและศึกนอก' ปะทุรอบใหม่!

รัฐบาล-พปชร. 'ศึกในและศึกนอก' ปะทุรอบใหม่!

บนความเคลื่อนไหว ..รัฐบาล-พปชร. ศึกในและศึกนอก ปะทุรอบใหม่!

ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อยู่ในช่วงของการ เฝ้าระวัง” และ ติดตามผล” หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลงจนเหลือหลักเดียว 

ทว่าช่วงจังหวะดังกล่าวนี้เอง กลับเกิด แรงปะทุ รอบใหม่ของขั้วการเมืองในซีกรัฐบาล ที่แม้เวลานี้จะพ้นระยะอันตรายด้วยเสียงสนับสนุนที่ทะลุกว่า270เสียง

แต่กลับต้องเผชิญ ศึกภายใน” คือพรรคพลังประชารัฐ ที่ล่าสุดมีการรวมตัวของ “กลุ่มพี่ใหญ่บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคไม่ว่าจะเป็น สันติ พร้อมพัฒน์,สุชาติ ชมกลิ่น,อนุชา นาคาศัย รวมทั้งกลุ่มกปปส. ในการเขย่าขาเก้าอี้ของ อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรค-“สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาพรรค และรัฐมนตรีในซีกอุตตม

พร้อมยื่นคำขาดว่า อุตตม และ สนธิรัตน์ จะต้องลาออก และมีการปรับครม.ในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่เช่นนั้นจะให้กรรมการบริหารพรรคเสียงกึ่งหนึ่ง คือ 18 คน จากทั้งหมด 34 คนลาออก เพื่อเปิดทางเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่เข้ามาแทน

แม้ศึกครั้งนี้จะสงบลงชั่วคราว ตรงที่บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมายื่นคำขาดกลางที่ประชุมครม.ว่า จะไม่มีการปรับใดๆ ทั้งสิ้นผมคนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ

แต่ทว่านอกเหนือจากศึกภายในพรรคแล้วสิ่งที่รัฐบาลและพลังประชารัฐยังคงต้องเผชิญหนีไม่พ้นความไม่ลงรอยกันของบรรดารัฐมนตรีภายในขั้วรัฐบาล

เห็นได้ชัดคือกรณีการแก้ปัญหาโควิดที่ก่อนหน้านี้ ที่ “บิ๊กตู่ ออกคำสั่งรวบอำนาจของ รัฐมนตรีมาดูเองเกือบทั้งหมด

มาถึงกรณีการอนุมัติลงนามใน ข้อตกลงความเข้าใจและความคืบหน้าเพื่อหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก หรือ CPTPP ซึ่งมีกระแสต่อต้านตามมามากมายว่ากันว่าทั้งรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ  จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รมว.พาณิชย์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ไม่เคยประชุมร่วมกันแม้แต่ครั้งเดียว

มาถึงกรณี แบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง ซึ่งมีข่าวว่า สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เตรียมหารือในวันนี้(29เม.ย.)เลื่อนการแบนสารพิษ 2 ชนิด คือพาราควอต และคลอร์ไพริฟอสออกไปก่อน

สวนทางรัฐมนตรีจากพรรคร่วมทั้ง “หมอหนูอนุทิน ชาญวีรกูล และ  มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ที่ยืนกรานว่าจะต้องแบนสารพิษดังกล่าวให้ได้

จากความไม่ลงรอยกันโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ที่มีความเห็นคนละทิศละทางมาโดยตลอด ยิ่งเป็นการสะท้อนภาพการทำงานที่ไม่เป็นเอกภาพระหว่างร่วมรัฐบาล

 ลามเป็นศึกนอกพรรคที่ปะทุออกมาในรอบใหม่อยู่เรื่อยๆ!!