ผันผวน

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ผันผวน แนวต้าน 1280 / 1286 จุด แนวรับ 1258 / 1247 จุด จับตา ผลประชุมครม. ประเด็นการผ่อนคลายธุรกิจคาดเป็น 4 ระยะ ตามที่เสนอโดยภาคเอกชน (เริ่มต้นจากธุรกิจหาบเร่ แผงลอย ฯลฯ ส่วนห้างสรรพสินค้าคาดอยู่ในกลุ่มท้ายๆ) และลุ้นรายงานผลกำไรบจ. ขนาดใหญ่ในเอเชีย ยุโรป สหรัฐฯ อาจเป็นลบต่อตลาด หากออกมาแย่กว่าคาด

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

1) ครม. ประชุมวันนี้ คาดอนุมัติต่ออายุพ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ 1 เดือน และให้เงินช่วยเกษตรกรครัวเรือนละ 1.5 หมื่นล้านบาท (จับตาความชัดเจนเรื่องการผ่อนคลายให้เปิดธุรกิจใหม่ โดยกลุ่มแรกจะเริ่มเปิดวันที่ 3 พ.ค.)

2) ผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นวานนี้ มีมติทำ QE แบบ Unlimited (เหมือนเฟด) และเพิ่มวงเงินซื้อ Corporate Bond, ETFs, J-REITs

3) ลุ้นผลกำไร 1Q20E ของ HSBC, UBS, BP, Caterpillar, Alphabet

4) พรรคพลังประชารัฐ มีข่าวลือเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญของพรรคและปรับครม. 5) แรงซื้อวานนี้ มาจากนักลงทุนรายย่อย 725.78 ล้านบาท แต่กองทุนมีแรงซื้อเหลือเพียง 68.34 ล้านบาท (ระวัง Sell on Fact)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA-Wholesale Inventories เดือน มี.ค. คาด 1% MoM (Vs เดือน ก.พ. -0.7% MoM), S&P Case/Shiller House price index เดือน ก.พ. คาด +0.2% MoM (Vs เดือน ม.ค. 0%), CB Consumer Confidence เดือน เม.ย. คาด 88 (Vs เดือน มี.ค. 120)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยยืนในแดนบวกได้ตลอดการซื้อขายก่อนมาปิดที่ 1267.41 จุด +8.63 จุด +0.69% วอลุ่ม 4.96 หมื่นล้านบาท อุตสาหกรรมนำขึ้น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +2.59% พาณิชย์ +2.26% ไฟแนนซ์ +2% ส่วนนำลง คือ ธนาคารฯ -1.92% หุ้นพุ่งแรง >4% คือ CPALL BEAUTY CPN CHAYO JMART MBKET ASP ส่วนหุ้นร่วงแรง DTAC CRANE CHOW

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: ข่าวการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่อีกครั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ช่วยหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลก นำโดยกลุ่มการเงิน อสังหาฯ DJIA +1.51% S&P500 +1.47% Nasdaq +1.1% CAC40 +2.55% DAX +3.13% FTSE +1.64%

- น้ำมันดิบดิ่งแรงและทองร่วงต่อ: ตลาดวิตกต่ออุปทานน้ำมันโลกล้นตลาด แม้กลุ่มโอเปคพลัสจะเริ่มลดกำลังการผลิตแล้วก็ตาม รวมถึงคลังเก็บบ้ามันที่เมืองคุชชิ่งใกล้เต็มความจุ (518.6 ล้าน Vs ความจุที่รับได้ 535 ล้านบาร์เรล) เป็นปัจจัยถ่วง WTI -USD4.16 -24.56% ปิดที่ USD12.78/บาร์เรล Brent เดือน มิ.ย. -USD1.45 -6.76% ปิดที่ USD19.99/บาร์เรล ส่วนทองคำปิด USD1,723.8/ออนซ์ -USD11.8 -0.68% จากขายทำกำไร

ประเด็นสำคัญ

+/- COVID-19 Update ณ วันที่ 27 เม.ย.: พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 3 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 2.08 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 9.85 แสนราย เสียชีวิต 5.6 หมื่นราย +ไทย-ศบค. รายงาน ณ วันที่ 27 เม.ย. พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 9 ราย (จากวันก่อนหน้า 15 ราย) สะสมเป็น 2,931 ราย โดยเป็นครั้งแรกที่กทม. ไม่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ และเสียชีวิต 1 ราย (จากวันก่อนหน้า 0 ราย) สะสม 52 ราย กพท. ขยายเวลาห้ามเครื่องบินโดยสารเดินทางเข้าไทย ยกเว้นคนไทย เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค.

+ การผ่อนปรนให้เปิดธุรกิจ: +USA-นิวยอร์ก จะเริ่มเปิดธุรกิจครั้งแรกวันที่ 15 พ.ค. ส่วนรัฐฯ อื่นๆ ที่เปิดธุรกิจใหม่แล้ว ได้แก่ ฮาวาย เท็กซัส มิชิแกน อลาสก้า จอร์เจีย โอกลาโฮมา +Germany-เปิดธุรกิจค้าปลีกย่อยเมื่อวันอาทิตย์และจะเปิดธุรกิจขนาดใหญ่เร็วๆนี้ +Italy-ยกเลิกมาตรการ lockdown ในวันที่ 4 พ.ค. หลังจานวนผู้เสียชีวิตลดลงตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. โดยสามารถเดินทางต่างเมือง บาร์และร้านอาหาร กลับมาเปิดใหม่เฉพาะการซื้อกลับบ้าน พนักงานก่อสร้างและโรงงาน เริ่มกลับไปทางาน

+ ไทย: ผลประชุมศบค. วานนี้ (รอครม. อนุมัติ) เสนอ 1) ขยายสถานการณ์ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิว-งดหรือชะลอเดินทางข้ามจังหวัด-ห้ามปชช. รวมกลุ่มออกไปอีก 1 เดือน เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. 2) เลื่อนวันหยุด-วันหยุดราชการทุกวันในเดือน พ.ค. ออกไป (เสนอโดยกระทรวงวัฒนธรรม) 3) ผ่อนปรนธุรกิจ: สภาพัฒน์เสนอแบ่งเป็น 4 สี ได้แก่ สีขาว เขียว เหลือง แดง โดยผ่อนปรนตามเกณฑ์สาธารณสุข

+ การผ่อนปรนธุรกิจ: ผลการหารือระหว่างประธานกรรมการหอการค้า สภาพัฒน์ฯ และภาคธุรกิจต่างๆ ภาคบ่ายวานนี้ได้ข้อสรุปที่เสนอจากภาคเอกชน คือ กลุ่มที่ 1 ที่จะได้เปิดกิจการ คือ สถานประกอบการขนาดเล็กในที่โล่งแจ้ง เช่น หาบเร่ แผงลอย สวนสาธารณะ ฯลฯ กลุ่มที่ 2 ได้แก่ สถานประกอบการขนาดเล็กที่มีทั้งที่ติดแอร์และไม่ติดแอร์ รวมถึงสนามออกกาลังกายกลางแจ้ง สนามเทนนิส สนามไดรฟ์กอล์ฟ สนามกอล์ฟ (ไม่ควรมีแคดดี) ฯลฯ กลุ่มที่ 3 คือ พื้นที่ปิดที่มีคนมาจำนวนมาก สนามกีฬาในร่มแบบเปิด หลังคาสูงไม่ใช้เครื่องปรับอากาศ เช่น สนามแบดมินตัน) และกลุ่มที่ 4 พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สนามมวย โรงภาพยนตร์ ศูนย์แสดงสินค้า ฯลฯ

- XD Effect: การขึ้นเครื่องหมายวันนี้มีผลกระทบต่อดัชนีตลาดฯ -0.34 จุด นาโดย QH GUNKUL BAFS ฯลฯ

แนะนำ   Trading Buy โดยมีจุด ขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: INTUCH BAM BGRIM

หุ้นเก็งกำไร: CPALL BJC BAM TFG CPF BGRIM GPSC BTS BEM

Derivatives: เปิด Long S50M20 เก็งกำไรเมื่อทะลุ 850 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)