'ชวน' จ่อหารือส.ส.'หมอ-พยาบาล' สกัดโควิด-19 ก่อนเปิดสภาฯ

'ชวน' จ่อหารือส.ส.'หมอ-พยาบาล' สกัดโควิด-19 ก่อนเปิดสภาฯ

“ชวน” เตรียมหารือส.ส.ที่เป็น “หมอ-พยาบาล” ทำแผนสกัดโควิด-19 ก่อนเปิดสภาฯ ต้น พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 28 เม.ย.63  นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ แถลงที่รัฐสภา ว่าในเดือนพฤษภาคม ก่อนถึงเวลาเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญ​ วันที่ 22 พฤษภาคม และสภาฯ เตรียมนัดประชุมวันที่ 27 - 28 พฤษภาคมนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เตรียมหารือกับ ส.ส. ที่เคยมีอาชีพเป็นหมอ แพทย์ หรือ พยาบาล หารือต่อมาตรการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และทำแผนเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในพื้นที่อาคารรัฐสภา

นอกจากนั้น เตรียมหารือร่วมกับ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหารือก่อนการเปิดประชุมสภาฯ ทั้งนี้ยอมรับว่ามาตรการคุมเข้มการระบาดที่เข้มงวด กรณีที่คงการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนั้น อาจมีผลกระทบต่อการเปิดประชุมสภาฯ แน่นอน เพราะข้อห้ามสำคัญคือ ห้ามรวมตัว หรือชุมนุมกัน ขณะเดียวกันสภาฯ ยังถูกยกเว้นไม่สามารถใช้การประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้

"การประชุมสภาฯ หากเปิดตามกำหนดไม่ได้ นายชวน มีอำนาจที่จะขอนัดการประชุม ภายใน 10 วันนับจากวันที่มีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ แต่สภาฯ มีวาระพิจารณากฎหมายสำคัญที่ต้องพิจารณาโดยเร่งด่วน ดังนั้นการเปิดประชุมสภาฯ จำเป็นต้องหารือกับทุกฝ่ายให้รอบคอบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุดต่อสุขภาพ ขณะเดียวกันต้องหารือกับรัฐบาลเพื่อผ่อนปรนให้การประชุมสภาฯ ทำได้ตามกำหนดเวลา ขณะที่การเตรียมความพร้อมห้องประชุมสุริยันนั้น ต้นเดือนพฤษภาคมนายชวน จะร่วมทดสอบระบบเครื่องเสียง และระบบลงคะแนนเพื่อให้ไม่มีข้อผิดพลาดระหว่างการใช้งานจริง" นพ.สุกิจ กล่าว

นพ.สุกิจ ยังแถลงตำหนิคำให้สัมภาษณ์ของนายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่านายชวน เป็นลูกไล่เผด็จการ ว่า ด้วยศักดิ์ศรีของนายชวน ไม่มีวันที่จะเป็นลูกไล่ของใคร รวมถึงนักการเมืองขายตัวบางคน ประเด็นที่นายนครกล่าวหานายชวนนั้น ตนเข้าใจว่าเป็นเพราะอ่านรัฐธรรมนูญไม่ชัดเจนว่าอำนาจการเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ นั้นเป็นอำนาจของนายชวน ทั้งที่รายละเอียดนั้นส.ส.ต้องเข้าชื่อเพื่อเสนอให้นายชวน ดำเนินการเพื่อขอเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ

ดังนั้น หากฝ่ายค้านต้องการเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญได้จริง นายนครควรนำเวลาช่วยล่ารายชื่อส.ส.ฝ่ายค้านให้ครบจำนวนจะดีกว่า และควรศึกษารัฐธรรมนูญให้ละเอียดเพื่อไม่ให้ประชาชนตำหนิได้ว่าบุคคลที่เป็นถึงรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ไม่เข้าใจรัฐธรรมนูญ.