ดัชนีเชื่อมั่นโมเดิร์นเทรดไตรมาส 1 ปี 63 ร่วง ต่ำสุดใน 7 ไตรมาส จากพิษโควิด
ม.หอการค้าไทยเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ระดับ 47.2 ต่ำกว่า 50 ในรอบ 7 ไตรมาส ผลจากการระบาดของโควิด -19 วอนรัฐเร่งรีสตาร์ทธุรกิจฟื้นเศรษฐกิจ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรดประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2563 พบว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 47.2 ซึ่งอยู่ในระดับต่ำว่ากว่า 50 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดใน 7 ไตรมาสหรือเกือบ 2 ปีที่เริ่มมีการสำรวจตั้งแต่กลางปี 2561 สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้ประกอบการไม่มั่นใจในการดำเนินธุรกิจ ปัจจัยลบที่สำคัญคือการแพร่ระบาดของโควิด -19 การประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และการสั่งปิดกิจการชั่วคราว มาตรการยกเลิกวีซ่า 18 ประเทศ ฟรีวีซ่า 3 ประเทศ การประกาศยกเลิกเที่ยวบินชั่วคราวของสายการบินในไทย ภัยแล้ง แม้จะมีปัจจัยบวก คือการคงอัตราดอกเบี้ย
นโยบายไว้ที่ระดับ 0 . 7 5% ต่อปีมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด -19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการก็ยังไม่ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลมีคำสั่งปิดห้างสรรพสินค้า และธุรกิจบางประเภท การขาดสภาพคล่อง เจอปัญหาผู้ค้าออนไลน์เถื่อนจำหน่ายสินค้าตัดราคา กำลังซื้อที่หดตัว
ทั้งนี้ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด มีข้อเสนอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา คือ มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มาตรการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การกระตุ้นการบริโภค เร่งแก้ไขปัญหาการว่างงาน
“ความเสียหายจากโควิด-19 ของผู้ประกอบการยังไม่ได้มีการประเมิน แต่หอการค้าไทยได้ประเมินความเสียหายด้านเศรษฐกิจโดยรวมต้นปีอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท โดยไตรมาสแรกคาดว่าประมาณ 3-4 แสนล้านบาท”
นายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย กล่าวว่า ช่วงการระบาดโควิด-19 ห้างค้าปลีกหรือห้างโมเดิร์นเทรดได้มีการปรับกลยุทธิ์การค้าเพื่อรองรับวิกฤต ไม่ได้ปรับลดพนักงานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามยอดขายลดลงจากการประกาศเคอร์ฟิว ลักษณะการค้าเปลี่ยนไป เช่น ช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 35 % สิ่งที่รัฐบาลควรทำจากนี้ไปคือการทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวให้รวดเร็ว โดยเฉพาะการเปิดธุรกิจห้างสรรสินค้า ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น ร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า การสนับสนุนเงินหมุนเวียนหรือซอฟโลนให้กับผู้ค้ารายย่อยเพิ่มเติม การเร่งมาตรการจ้างแรงงานเป็นรายชั่วโมง การเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประเทศไทยโดยมีมาตรการด้านสาธารณสุขควบคุมอย่างเข้มงวดและการลดภาษี เช่น ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง