พายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ถล่ม 41 จังหวัด บ้านเรือนพัง 8,956 หลัง

พายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ถล่ม 41 จังหวัด บ้านเรือนพัง 8,956 หลัง

ประชาชน ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 41 จังหวัด บ้านเรือนพัง 8,956 หลัง

วันนี้ (28 เม.ย.63) เวลา 09.30 น. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 41 จังหวัด รวม 130 อำเภอ 294 ตำบล 907 หมู่บ้าน 5 เทศบาลตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 8,956 หลัง ปัจจุบันคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อน ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำให้ช่วงวันที่ 22 เมษายน 2563 ถึงปัจจุบัน (28 เม.ย.63 เวลา 06.00 น.) เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและ ลมกระโชกแรงในพื้นที่ 41 จังหวัด ดังนี้

ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ เลย อุดรธานี ขอนแก่น หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี มหาสารคาม นครราชสีมา สุรินทร์ และศรีสะเกษ
ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี และตราด
ภาคกลาง 7 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อ่างทอง นครนายก สระบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และประจวบคีรีขันธ์


รวม 130 อำเภอ 294 ตำบล 907 หมู่บ้าน 5 เทศบาลตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 8,956 หลัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 1 แห่ง สถานที่ราชการ 8 แห่ง วัด 1 แห่ง เสาไฟฟ้า 73 ต้น คอกสัตว์ 42 แห่ง ยุ้งข้าว 22 หลัง เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป