ส่อง 'Tmall' แพลตฟอร์มฮอตดึงสินค้าไทยเจาะตลาดจีน

ส่อง 'Tmall' แพลตฟอร์มฮอตดึงสินค้าไทยเจาะตลาดจีน

“ทูตพาณิชย์”เผยTmall แพลตฟอร์มดังของจีนเปิดสินค้าขายดี“รังนกไทย”ติดโผแนะทำตลาดเพิ่มชี้แฟชั่น-การแพทย์ยอดขายเพิ่มตามพฤติกรรมบริโภคเปลี่ยน

รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.)  หรือ ทูตพาณิชย์ ณ เมืองกวางโจว เปิดเผยว่าแพลตฟอร์ม Tmall Global ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-border Ecommerce) ที่มียอดขายอันดับ 1 ในจีน ได้ออกรายงาน “กลุ่มสินค้าซูเปอร์สตาร์ในปี 2020” โดยกลุ่มสินค้าที่ถูกจัด ให้เป็นซูเปอร์สตาร์ ได้แก่ กลุ่มเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ และกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก 

สำหรับสินค้าซูเปอร์สตาร์ 10 อันดับของแต่ละหมวดหมู่ได้รับการคัดเลือกตามปัจจัยต่างๆ อาทิ การเติบโตของยอดขายในปีที่ ผ่านมา และการเติบโตของยอดขายในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 เป็นต้น

“เครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูป มียอดขายเพิ่มขึ้น 73% โดยแบรนด์ที่ได้รับ ความนิยมมากที่สุดคือ แบรนด์จากประเทศไทย ส่วนครีมมาส์กหน้า มียอดขายเพิ่มขึ้น 5,074% เมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันในปีก่อน ขณะที่อุปกรณ์ทางการแพทย์ มียอดขายเพิ่มขึ้น 66% เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด"

ทั้งนี้ สคต.เห็นว่า การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-border E-commerce) เป็นช่องทางการค้าที่มีความสำคัญใน การค้าระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้ในปี 2562 ที่ผ่านมามีผู้ใช้งานกว่า 154 ล้านคน มูลค่าการค้าสูงกว่า 10 ล้านล้านหยวน 

นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ส่งผลกระทบต่อ รูปแบบการค้าปกติ รัฐบาลจีนที่กำลังเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจจึงยิ่งให้ความสำคัญกับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนมากยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากการที่รัฐบาลประกาศจัดตั้งเขตนำร่องพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ข้ามพรมแดนแบบครบวงจร 46 แห่ง เพื่อกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยใน การศึกษาข้อมูลแนวโน้มตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคจีนในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้าม พรมแดน

โดยจากรายงานข้างต้นจะเห็นว่า กลุ่มสินค้าซูเปอร์สตาร์ในปี 2020 ได้แก่ กลุ่มเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว, กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ และกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก ล้วนเป็นสินค้าที่ประเทศ ไทยมีศักยภาพในการส่งออกไปตลาดจีน โดยในรายงานพบว่าในบางสินค้ามีแบรนด์จากไทยเป็นที่นิยมของผู้บริโภคจีนอยู่ แล้ว อาทิ มาสคาร่า ยาสีฟัน และรังนกพร้อมดื่ม เป็นต้น แต่ในส่วนสินค้าอื่นๆนั้นประเทศไทยยังต้องเร่งพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐาน และยกระดับภาพลักษณ์สินค้าให้สามารถแข่งขันกับแบรนด์ที่มาจากประเทศอื่นได้