หุ้นโรงแรมวิ่งนำตลาด ฟื้นตัว 4 สัปดาห์ติด กูรูชู CENTEL ฐานะการเงินแกร่งสุด

หุ้นโรงแรมวิ่งนำตลาด ฟื้นตัว 4 สัปดาห์ติด กูรูชู CENTEL ฐานะการเงินแกร่งสุด

3 หุ้น กลุ่มโรงแรม 'CENTEL - MINT - ERW' พุ่งนำตลาด ฟื้นตัวแรง 30 - 50% ในช่วง 4 สัปดาห์ที่่ผ่านมา ด้านนักวิเคราะห์ชู CENTEL ฐานะการเงินแข็งแกร่งสุด จับตากำไรไตรมาสแรกส่อติดลบ 90%

ความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มโรงแรม 3 บริษัท ได้แก่ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) และ บมจ.เอราวัณ (ERW) ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เปรียบเทียบกับดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 15% มาแตะระดับ 1,270 จุด ขณะที่หุ้นโรงแรมทั้ง 3 บริษัทนี้ ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าทั้งหมด โดย CENTEL เพิ่มขึ้นจาก 14.50 บาท มาแตะระดับ 22 บาท หรือราว 51.7% MINT เพิ่มขึ้นจาก 16.20 บาท มาแตะระดับ 23 บาท หรือราว 41.9% และ ERW เพิ่มขึ้นจาก 2.32 บาท มาอยู่ที่ประมาณ 3 บาท หรือเพิ่มขึ้น 29.3%

บล.ทิสโก้ ระบุว่า เราปรับมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นในกลุ่มโรงแรมลง โดย MINT ลดลงจาก 42 บาท เป็น 22 บาท ERW แนะนำให้ “ถือ” ลดลงจาก 3.40 บาท เป็น 2.20 บาท แต่เราปรับคำแนะนำของ CENTEL เป็น “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสมลดลงจาก 29 บาท เป็น 24 บาท อิง EV/EBITDA ที่ 11 เท่า สำหรับปี 2563

จากการทำ Stress Test แสดงให้เห็นว่างบดุลของ CENTEL มีความแข็งแกร่งสุดในกลุ่ม และสามารถทนได้มากกว่า 24 เดือน ในกรณีที่ RevPar ลดลงโดยที่จะไม่กระทบต่อ D/E ของหุ้นกู้ แต่สำหรับของ MINT และ ERW จะทนได้เพียง 9 และ 12 เดือนตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า RevPar ที่ลดลง 100% จะไม่เกิดขึ้นต่อเนื่องยาวเกิน 1 ปี จากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัว

เราเลือก CENTEL เป็นหุ้นแนะนำ โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 24 บาท เนื่องจาก 1) สัดส่วนรายได้จากโรงแรมที่ต่ำกว่าคู่แข่ง 2) ธุรกิจอาหารที่มากกว่า MINT และ 3) การปรับปรุงสาขาใหม่ในช่วงของ COVID-19 และเรายังคงแนะนำให้ “ซื้อ” MINT เนื่องจาก NH มีรายได้ในประเทศกว่า 60% ทำให้ความทนทานต่อเศรษฐกิจโลกสูง

ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วย SOTP และ DCF สำหรับกลุ่มโรงแรม และมีความเสี่ยงคือ 1) ผลกระทบจาก COVID-19 2) การแข่งขันส่งอาหารที่เพิ่มขึ้น และ 3) ผลกระทบจากการท่องเที่ยวในประเทศ

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2563 ที่ 83 ล้านบาท ลดลง 90% จากปีก่อน กระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้รายได้หลักในกลุ่มโรงแรมและกลุ่มอาหารลดลง ดังนี้ 1) รายได้จากการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมคาดที่ราว 1.7 พันล้านบาท ลดลง 34.7% อิงสมมติฐานจากคาด Revpar เฉลี่ยของกลุ่มโรงแรมลดลง 35% เทียบกับติดลบ 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า จากการลดลงของค่าห้องพักในตลาดและอัตราการเข้าพักที่อยู่ระดับต่ำ คาดที่ 59% ในไตรมาสแรก

2) คาดรายได้จากการดำเนินงานธุรกิจกลุ่มอาหารที่ราว 2.5 พันล้านบาท ลดลง 11.7% กดดันจากสถานการณ์โรค COVID-19 ในช่วงต้นปี คาด SSSG ในไตรมาสแรก ลดลง 9.9% แต่ลดลงน้อยกว่ากลุ่มโรงแรมเนื่องจากยังมีรายได้ส่วนแทนจากกลุ่ม Delivery และการปิดห้างเกิดขึ้นในปลายไตรมาสแล้ว และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นรวมคาดลดลงที่ 39% จาก 40.7% ในไตรมาส 4 ปีก่อน และ 42.7% ในไตรมาส 1 ปี 2562 ทั้งนี้ CENTEL จะประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกนี้ ในวันที่ 13 พ.ค. 2563