AOT - ถือ

AOT - ถือ

มาตราการเยียวยารอบสอง

  • What’s new

AOT ประกาศมาตรการเยียวยาครั้งที่สอง สำหรับผู้ประกอบการสายการบินและผู้ได้สัมปทาน บอร์ดบริหารได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้ได้รับสัมปทานและผู้ประกอบการสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ covid-19 โดยมีใจความสำคัญคือ:

  1. ยกเว้นค่าเช่า (สำหรับผู้ประกอบการที่ขอหยุดกิจการชั่วคราว) หรือ ส่วนลดค่าเช่ารายเดือน 50% ในช่วงระหว่าง 1 เมษายน ถึง 31 ธันวาคม 2020
  2. ยกเว้นค่าจอดเครื่องบิน (สำหรับสายการบินที่ขอหยุดกิจการชั่วคราว) และส่วนลด 50% ของค่าลงจอดและค่าจอดเครื่องบินระหว่าง 1 เมษายนถึง 31 ธันวาคม 2020
  3. ผู้ได้รับสัมปทานและผู้ประกอบการสายการบินสามารถค้างชำระ ค่าเช่า ค่าบริการพื้นที่ ค่าลงจอดและค่าจอด และค่าบริการอากาศยานเป็นระยะเวลา 6 เดือน
  4. ขยายระยะเวลาการชำระสัมปทานออกไป 6 เดือนเป็นในช่วงธันวาคม 2020
  5. ปรับอัตราค่าสัมปทานคงที่และค่าสัมปทานขั้นต่ำ โดยสัญญาที่เริ่มก่อน 19 กุมภาพันธ์ 2020 จะใช้อัตราของปี 2019 และสัญญาที่เริ่มหลัง 19 กุมภาพันธ์ 2020 จะใช้อัตราค่าสัมปทานขั้นต่ำตามที่ผู้ได้รับสัมปทานเสนอมา (หลังจากช่วงการยกเว้นหมดลง) โดยการคำนวณโดยใช้ MAGi growth formula จะถูกนำมาใช้เมื่อจำนวนผู้โดยสารเกินระดับของปี 2019

 

  • Analysis

การปรับค่าสัมปทานขั้นต่ำกระทบมูลค่าระยะยาว ในขณะที่ข้อกำหนดอื่นๆในมาตรการนั้นเกิดผลกระทบเพียงระยะสั้นกับ AOT จนถึง 1Q21 (การลดค่าลงจอดและค่าจอด และค่าเช่า 50%) ซึ่งกระทบต่อราคาเป้าหมายน้อยกว่า 1 บาทต่อหุ้น เรามองข้อกำหนดข้อ 5 กระทบผลประโยชน์ของ AOT ในระยะยาวจากข้อเสนอค่าสัมปทานขั้นต่ำล่าสุด ตัวอย่างเช่น เราอาจจะเห็นค่าสัมปทานขั้นต่ำอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาทใน 2022 เทียบกับ 1.6หมื่นล้านบาทหากค่าสัมปทานเติบโตต่อเนื่องในปีที่ถูกยกเว้นไป การวิเคราะห์เบื้องต้นของเราคาดว่ากำไรใน FY2020F ลดลงไปสู่ระดับ5.9พันล้านบาท (ลดลง2.1พันล้านบาท) จากเงื่อนไขข้อ 1 และ 2 และกำไรในFY2022 ลดลงไปสู่ระดับ 3.4หมื่นล้านบาท (ลดลง 1.7พันล้านบาท) จากเงื่อนไขข้อ 5

 

  • Action/ Recommendation

ยังมี downsideอื่นต่อราคาเป้าหมาย เราคาดว่าผลกระทบจากมาตรการเยียวยาจะอยู่ที่ 2 บาทต่อหุ้นโดยส่วนใหญ่มาจากข้อ 5 ในขณะที่ AOT มีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงมาตรการช่วยเหลือต่างๆ หากจำนวนผู้โดยสารกลับมาสู่ระดับปกติ โดย AOT คาดว่าผู้โดยสารจะกลับมาสู่ระดับปกติในปี 2023-24 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นานกว่าประมาณการของเราที่ว่าจะกลับสู่ระดับปกติในปี 2021 (ใช้จำนวนผู้โดยสารปี2019เป็นเกณฑ์) ถึง ณ ปัจจุบันเรามองความเสี่ยง downside สำหรับประมาณการของเราและราคาเป้าหมาย (เช่น ความเสี่ยงราว 10% ของรายได้ค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร การฟื้นตัวที่ช้าของจำนวนผู้โดยสารทั้งในและระหว่างประเทศ และsocial distancing ของธุรกิจสายการบิน)