มีผลแล้ว! ชะลอชำระหนี้ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

มีผลแล้ว! ชะลอชำระหนี้ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ประกาศราชกิจจาฯ ชะลอชำระหนี้ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีผลบังคับใช้แล้ว

เมื่อวันที่ 23 เม..63 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การชะลอการชำระหนี้แก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการชะลอหนี้เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 .. 2563

มีสาะสำคัญโดยสรุปดังนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการชะลอการชำระหนี้ให้สถาบันการเงินชะลอการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของผู้ประกอบวิสาหกิจเป็นระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันถัดจากวันที่ลงในประกาศนี้ โดยไม่ต้องมีข้อตกลงหรือทำสัญญาใดๆ กับผู้ประกอบวิสาหกิจ ทั้งนี้ สถาบันการเงินยังคงคิดดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาที่ชะลอการชำระหนี้ก็ได้

การชะลอการชำระหนี้ดังกล่าว ไม่กระทบสิทธิของสถาบันการเงินในการใช้สิทธิเรียกร้องในทางคดีกับผู้ประกอบวิสาหกิจรายที่เลิกกิจการ หรือรายที่มีพฤติการณ์ทุจริตเพื่อให้ได้เงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับการชะลอการชำระหนี้ ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้

-เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งมีสถานประกอบการและประกอบธุรกิจในประเทศไทย

-มีวงเงินสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มธุรกิจของผู้ประกอบวิสาหกิจที่มีกับสถาบันการเงินแต่ละแห่งไม่เกิน 100 ล้านบาท วันที่ 31 ธันวาคม 2562 แต่ไม่รวมถึงวงเงินตามภาระผูกพัน วงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ และวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต

-ไม่เป็นลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็นสินทรัพย์จัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน สินทรัพย์จัดชั้นสงสัย สินทรัพย์จัดชั้นสงสัยจะสูญ สินทรัพย์จัดชั้นสูญ ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรอง วันที่ 31 ธันวาคม 2562

หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้รับการชะลอการชำระหนี้ ได้แก่ หนี้ที่มียอดหนี้คงค้างกับสถาบันการเงินในวันที่พระราชกำหนดมีผลใช้บังคับ

การชะลอการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยดังกล่าว มิให้ถือว่าเจ้าหนี้ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หรือลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้  จึงไม่ถือเป็นเหตุแห่งการผิดเงื่อนไขการชำระหนี้ตามสัญญา และไม่ถือเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่จะต้องรายงานวันที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้แก่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ

สถาบันการเงินต้องรับชำระหนี้จากผู้ประกอบวิสาหกิจรายที่ประสงค์จะชำระหนี้ในช่วงเวลาการชะลอการชำระหนี้ โดยจัดให้มีช่องทางตามสมควรเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบวิสาหกิจสามารถชำระหนี้ได้

สถาบันการเงินต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการชะลอการชำระหนี้ แก่ผู้ประกอบวิสาหกิจอย่างครบถ้วนเพียงพอโดยเร็วที่สุด โดยอย่างน้อยต้องมีข้อมูล ดังต่อไปนี้ (1) สิทธิที่จะได้รับการชะลอการชำระหนี้ (2) แนวทางการชะลอการชำระหนี้ (3) ภาระหน้าที่ในการชำระหนี้ (4) แนวทางการสละสิทธิที่จะได้รับการชะลอการชำระหนี้ (5) การคิดดอกเบี้ยบนเงินต้นที่ได้รับการชะลอการชำระหนี้ หากสถาบันการเงินยังคงคิดดอกเบี้ยบนยอดหนี้คงค้างอย่างต่อเนื่อง (6) วิธีการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่คิดคำนวณในช่วงชะลอการชำระหนี้ ซึ่งอาจต้องชำระภายหลังจากที่พ้นระยะเวลาการชะลอการชำระหนี้ตามประกาศนี้

สถาบันการเงินอาจให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจตามวรรคหนึ่งด้วยวิธีการแจ้งให้ผู้ประกอบวิสาหกิจรับทราบโดยตรง หรืออาจเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสถาบันการเงิน หรือช่องทางอื่น

อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่