CK - ถือ

CK - ถือ

ประมาณการ 1Q63: อยู่ในภาวะที่ยากลำบาก

Event

ประมาณการ 1Q63, ปรับลดคำแนะนำ และปรับประมาณการกำไรปี 2563-2564

Impact

Backlog ต่ำสุดในรอบสิบปี จากความล่าช้าในการเปิดประมูลโครงการภาครัฐ

CK มี backlog ในมืออยู่ที่ 3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 ทั้งนี้ จากความล่าช้าในการเปิดประมูลโครงการภาครัฐ เนื่องจากรัฐบาลมุ่งความสนใจไปที่การรับมือ COVID-19 ดังนั้น CK จึงเผชิญกับความไม่แน่นอนในแง่ของ backlog ใหม่ โดยเราคาดว่าจะมีแค่ i) โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีแดง (สามสัญญา มูลค่างาน 2.07 หมื่นล้านบาท เปิดประมูลแบบ e-bidding) ii) โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก (PPP Net Cost) ซึ่งคาดว่าจะออก TOR ได้ใน 1H63 ส่วนโครงการภาครัฐอื่น ๆ อย่างเช่น รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้ และรถไฟทางคู่เฟสสองจะถูกเลื่อนไปปี 2564 นอกจากนี้ CK ก็ยังจะต้องเผชิญกับสภาวะการแข่งขันที่สูงจากผู้รับเหมาจีนอย่างที่เห็นมาตลอดสองสามปี ที่ผ่านมา เราคาดว่า CK จะต้องยอมรับ margin ที่ลดลงเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะชนะประมูลงาน โดยเราใช้สมมติฐานอัตรากำรขั้นต้นที่ลดลงที่ 8.3% ในปี 2563 และ 8.0% ในปี 2564 จาก 8.6% ในปี 2562

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 39.5% และปี 2564 ลง 18.1% เนื่องจาก equity income จาก BEM

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ลง 39.5% และปี 2564 ลง 18.1% เนื่องจากเราปรับลดประมาณการรายได้ equity income จาก Bangkok Expressway and Metro (BEM.BK/BEM TB)* ปีนี้ลง 29.3% และปี 2564 ลง 21.1% ซึ่งจะไปหักล้างกับอัตรากำไรขั้นต้นปี 2563-2564 ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดิมที่ 8.0% และ 7.7% เป็น 8.3% และ 8.0% เนื่องจากความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม ในขณะที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการประกาศ curfew (22.00 น.-04.00 น.) ทั้งนี้ เรามองว่าประมาณการกำไรปี 2564 ของเรายังมี downside อีก 20.6% ถ้าหาก CK ไม่ชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก และ MRT สายสีแดง

คาดว่ากำไรใน 1Q63 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากรายได้ equity income จาก BEM และ CKP อ่อนแอ

เราคาดว่า CK จะขาดทุนสุทธิ 49 ล้านบาทใน 1Q63 จากที่มีกำไรสุทธิ 113 ล้านบาทใน 4Q62 และ 355 ล้านบาทใน 1Q62 โดยกำไรที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ จะเป็นเพราะ i) รายได้ equity income จาก BEM ลดลงเพราะปริมาณรถใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าลดลง ในขณะที่รายได้จาก CK Power (CKP.BK/CKP TB)* ก็ลดลงจากภาวะภัยแล้งในลาว เราคาดว่ารายได้ใน 1Q63 ของ CK จะอยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท (-32.7% YoY, -3.5% QoQ) เนื่องจากยอด backlog ต่ำ ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวอยู่ที่ 9.0% (จาก 9.0% ใน 4Q62 และ 8.6% ใน 1Q62) ทั้งนี้ เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q63 จะแย่ลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากทั้งรายได้จากงานก่อสร้าง และรายได้ equity income อ่อนแอทั้งคู่

Valuation & Action

เราปรับลดคำแนะนำหุ้น CK จาก ซื้อ เป็น ถือ และให้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2563 ที่ 24.25 บาท เรายังคงระมัดระวังกับหุน CK เนื่องจาก backlog ต่ำ และการเปิดประมูลโครงการภาครัฐคืบหน้าช้า ซึ่งจะทำให้สัดส่วน SG&A/รายได้ในปี 22563-64 เพิ่มขึ้นจากการที่มีแรงงานที่ไม่ได้ใช้งานในช่วงก่อนเริ่มโครงการใหม่ (เราได้ใส่ไว้ในประมาณการของเราเรียบร้อยแล้ว)

Risks

การก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด ขาดแคลนแรงงาน และมีการปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ