ตลาดเลือกพักเงินในหุ้นปลอดภัย เพื่อไม่ต้องลุ้นกับงบส่วนใหญ่ที่มีโอกาสชะลอ

ตลาดเลือกพักเงินในหุ้นปลอดภัย เพื่อไม่ต้องลุ้นกับงบส่วนใหญ่ที่มีโอกาสชะลอ

ราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัว 19% จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน

หลังประธานาธิปดีทรัมป์ทวีคว่าได้สั่งการให้กองทัพเรือสหรัฐฯ ยิงทำลายเรือของอิหร่านทุกลำหากมีท่าทีที่เป็นอันตรายต่อเรือสหรัฐฯ หลังมีรายงานว่าเรืออิหร่าน 11 ลำมีท่าทียั่วยุ ขณะที่เรือสหรัฐฯ 6 ลำ อยู่ระหว่างซ้อมปฏิบัติการในน่านน้ำสากล ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบฟื้นในช่วงสั้น ราคาน้ำมัน Brent และ Dubai ฟื้นตัวในระดับเพียง 5% เพราะได้รับผลกระทบน้อยกว่าจากภาวะอุปทานน้ำมันล้นเกินในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามแหล่งกักเก็บน้ำมันในสหรัฐฯ ที่ใกล้เต็ม โดยเฉพาะที่จุดส่งมอบ Cushing คาดจะยังกดดันให้น้ำมันอยู่ในระดับต่ำและปรับขึ้นได้จำกัด

ระวังความผันผวนจากงบ หลังชุดการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรปน่าจะหมดในสัปดาห์นี้ มาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด วงเงิน 4.84 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ จะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่การประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ในวันเดียวกันจะมีการหารือเกี่ยวกับการใช้งบร่วมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่วานนี้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมายอมรับตราสารหนี้ที่อาจถูกปรับลดอันดับเครดิตลงต่ำกว่าระดับลงทุน (BBB-) เพื่อเป็นหลักประกันในการที่ธนาคารพาณิชย์จะมาขอกู้ยืมเงินเสริมสภาพคล่อง ทำให้ปัจจัยบวกสำคัญๆเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะถูกประกาศออกมาหมดในระยะสั้นแล้ว และอาจต้องระวังความผันผวนของตลาดที่จะมาจากการประกาศผลประกอบการที่จะเห็นชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่สัปดาห์หน้า 

กลุ่มปลอดภัยถูกเก็งกำไรขึ้นมาแสดงถึงความกังวลของตลาดต่องบกลุ่มอื่นๆ หุ้นสื่อสารและไฟฟ้า มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดต่ำกว่ากลุ่มอื่น ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62 มีโมเมนตัมที่ดีขึ้นจากช่วงปลายปีก่อน ทำให้เป็นหุ้นพักเงินของนักลงทุนที่ไม่ต้องการเสี่ยงกับการประกาศงบในกลุ่มอื่นๆ ที่คาดว่าจะอ่อนแอลง 

งบกลุ่มไฟฟ้า - กำไรปกติทุกตัวยังดี โดยเฉพาะ BPP ที่ดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq เนื่องจากโรงไฟฟ้าหงสาอัตราการดำเนินงานขึ้นไปเกือบ 90% ส่วน GPSC ได้ contribution from GLOW เข้ามาเต็มๆ ส่วน GULF ได้อานิสงค์จากโรงไฟฟ้าที่เพิ่งจ่ายไฟในปีที่แล้ว ขณะที่ EGCO กำไรลดลงเล็กน้อย yoy เนื่องจากโรงไฟฟ้า paju ที่เกาหลีมี margin ที่ลดลง แต่กำไรสุทธิของ GULF และ EGCO จะถูกกระทบจากขาดทุนค่าเงิน ทำให้หุ้นที่น่าสนใจจะอยู่ที่ BPP และ GPSC

งบกลุ่มสื่อสาร - คาดกำไรสุทธิจะปรับตัวขึ้น qoq  เนื่องจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลงเป็นหลัก ขณะที่รายได้ค่าบริการกระทบไม่มาก แม้รายได้จากโรมมิ่งของนักท่องเที่ยวตปท.ลดลง หุ้นเด่นในกลุ่มยังเป็น ADVANC

ภาพรวมกลยุทธ์ โมเมนตัมยังดีในกลุ่มต้นทุนอิงปิโตรเลียม, ไฟฟ้า และสื่อสาร ภาพรวมยังมองเป็นแค่ technical rebound ที่มีแนวต้าน 1270 และดีสุด 1300 จุด ตลาดอาจผันผวนขึ้นหลังเข้าสู่ช่วงประกาศงบ // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร IVL, BPP, EPG*/ ขายชอร์ต AOT* 

แนวรับ 1,239-1,250 / แนวต้าน : 1,270-1,286 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

เงินลงทุนไหลออกจาก Hedge Funds มากสุดในรอบ 10 ปี รายงานเผยนักลงทุนถอนเงินออกจาก Hedge Funds ในไตรมาส 1/63 รวมสุทธิ $33 พันล้าน มากสุดในรอบ 10 ปี นำโดยกลุ่ม Macro Hedge Funds ที่ลงทุนในตราสารหนี้ อัตราแลกเปลี่ยน และสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์รวมของ Hedge Fund ลดลง 333 $พันล้าน

กำไรกลุ่มธนาคารหด 18.4% yoy – หุ้นกลุ่มธนาคารรายงานกำไรไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 4.41 หมื่นล้านบาท เปลี่ยนแปลง -18.4% yoy โดยธนาคารที่กำไรลดลงมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ BAY (-44.7%), KBANK (-34.4%), KTB (-16.6%)

PTT – PTT เตรียมเสนอบอร์ดในวันที่ 30 เม.ย. เพื่อปรับสภาพคล่อง ลดค่าใช้จ่ายปี 63 ลงกว่าพันล้านบาท พร้อมเบรกแผนการลงทุนโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ ของ PTTGC และ โครงการ MARS ของ IRPC หลังความต้องการปิโตรเคมีในตลาดโลกเปลี่ยน

ประเด็นติดตาม: 23 เม.ย. – EU PMI เดือน เม.ย. / US PMI เดือน เม.ย. / ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของไทย, 20-24 เม.ย. ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/63

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)