ขึ้นให้ระวังแรงขาย

ขึ้นให้ระวังแรงขาย

ดัชนีวานนี้พลิกปิดบวกกว่า 8.89 จุด ตาม Sentiment ตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดโซนยุโรปที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก

แม้ในระหว่างวันดัชนีจะถูกกดดันจากกลุ่ม ENERG และ BANK โดยดัชนี SET Index ปิดที่ 1,261.81 จุด (+8.89 จุด) Volume 7.7 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,755.84 ลบ. TFEX Net -4,2777 สัญญา ตราสารหนี้ +6,990 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ +456.94 จุด+1.99% จากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน และความหวังว่าสภาผู้แทนฯสหรัฐจะอนุมัติมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ในการประชุมวันพฤหัสนี้

+ราคาน้ำมันดิบ WTI +2.21 ดอลลาร์ +19.1% ปิด 13.78 ดอลลาร์/บาร์เรลหลัง
ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะยิงเรือปืนของอิหร่านทุกลำ หากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐ ส่งผลให้สถานการณ์สหรัฐและอิหร่านอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

+จีนเผยอุตสาหกรรมการบินเริ่มฟื้นตัวผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

+ก.คลังเคาะแผนกู้เงินตาม พ.ร.ก.แบ่งปีงบประมาณ 63 ที่ 6 แสนลบ. ปี 64 อีก 4 แสนลบ.

-EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้วถ่วงราคาน้ำมัน

-ทองคำปรับตัวขึ้นจากความกังวลสงครามระหว่างสหรัฐและอิหร่าน

-สหรัฐเผยจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อจำนองลดลงจากพิษโควิด-19

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 16.79 จุด +0.06% เช้านี้เปิดบวก 6.53 จุด

+ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 142.83 จุด -0.74% เช้านี้เปิดบวก 175.09 จุด ตามทิศทางดาวโจนส์-ราคาน้ำมันฟื้นตัว

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.5 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.36 บาท/US

*จับตาการบินพลเรือนฯเชิญสายการบินต่าง ๆ หารือก่อนกลับมาบินในประเทศวันที่ 1 พ.ค. 63  ส่วนส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และยอดการผลิต-ส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ส่วนสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนเม.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลังราคาน้ำมันดิบ WTI เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับคาดหวังว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติมาตรการเยียวยาวงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลในสัปดาน์นี้ ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19ใหม่ในไทยชะลอตัวลงต่อเนื่อง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,275 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

กพท. เผยสายการบินที่ขอหยุดบินภายในประเทศชั่วคราวถึงวันที่ 30 เม.ย. 63 และพร้อมเปิดทำการบินในวันที่ 1 พ.ค. 63 ประกอบด้วย 1. สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส 2. สายการบินไทยแอร์เอเชีย 3. สายการบินไทยไลอ้อน แอร์ 4. สายการบินไทยเวียตเจ็ท และ 5. สายการบินนกแอร์ อย่างไรก็ตามในวันที่ 23 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. กพท. จะเชิญสายการบินต่าง ๆ มาหารือซักซ้อมความเข้าใจ และแนวทางปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานไทย เผย ขณะนี้ยังไม่มีสายการบินใดแจ้งยืนยันเข้ามาว่าจะเปิดทำการบินในวันที่ 1 พ.ค.นี้ คาดว่าคงจะแจ้งเข้ามาภายในต้นสัปดาห์หน้า

ความเห็น เรามุมมองบวกธุรกิจสนามบินและสายการบินที่จะสามารถกลับมาเปิดดำเนินการ
ได้ต้นเดือนพ.ค. ส่งผลให้ปัญหาขาดสภาพตล่องคลี่คลายโดยเราคาดว่าหุ้นที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือ AOT BA AAV และ THAI ตามลำดับ

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการทยอยปลด Lockdown (BTS BTSGIF BEM CRC MC AU )

หุ้นมีข่าว   

·         KTC Conference Call (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 33 บาท) มุมมอง Neutral

ผู้บริหารชี้แจงว่างบการเงินงวด 1Q63 ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพียงไม่ถึงเดือนจากการเริ่ม lockdown ตั้งแต่ 22 มี.ค. คาดจะเห็นชัดเจนมากขึ้นในงวด 2Q63 จากการได้รับผลกระทบเต็มไตรมาส  ซึ่งผู้บริหารประเมินว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรลดลงราว 40-70% และมีความเสี่ยงว่าลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 สมัครเข้าร่วมโครงการพักชำระค่างวด 3 รอบบัญชีอาจจะกลับมาจ่ายในงวดที่ 4 ไม่ได้

ความเห็น  ฝ่ายวิจัยมีมุมมอง “Neutral” หลัง KTC ประกาศผลการดำเนินงานงวด 1Q63 Bloomberg consensus ประมาณการกำไรปี 63 เฉลี่ย 5,754 ล้านบาทปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 5,524 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่เหลือยังมีปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของระยะเวลาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะยาวนานแค่ไหนซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการชำระคืนของลูกหนี้และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss : ECL) ในอนาคต

·         (+) บอร์ดแบงก์ออมสินเพิ่มเกณฑ์ปล่อยกู้ซอฟท์โลน 8 หมื่นล้าน คัดนอนแบงก์ ลีสซิ่งเหลือ 70 บริษัทจากเดิม 170 แห่ง MTC-SAWAD รับไปรายละ 5 พันล้าน สัปดาห์หน้าเริ่มปล่อยกู้ ด้าน MTC แจ้งงบ Q1 วันที่ 7 พ.ค.นี้ โบรกฯ คาดกำไร 1.2 พันล้าน โต 16% ซอฟท์โลนช่วยดันกำไรเพิ่ม 0.2% “บิ๊กตู่” ส่งเทียบเชิญผู้บริหาร MTC-SAWAD ช่วยกู้วิกฤติโควิด (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+/-) PTT (Bloomberg Consensus 38.99 บาท)  เตรียมเสนอบอร์ด 30 เม.ย.นี้ ปรับสภาพคล่อง ลดค่าใช้จ่ายปีนี้กว่าพันล้านบาท พร้อมเล็งเบรกแผนลงทุนโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ ของ PTTGC และโครงการ MARS ของ IRPC หลังดีมานด์ปิโตรเคมีตลาดโลกเปลี่ยนแปลง (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) KTIS (Bloomberg Consensus 1.98 บาท)  จับมือ CPALL ส่งแอลกอฮอล์ 70% แบรนด์ KNAS ขายผ่านเซเว่นฯ ในราคาถูกพิเศษ เริ่มจากขนาด 5 ลิตร 300 บาท เตรียมออกขนาด 1 ลิตร ตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไป ขวดละ 89 บาท และแบบรีฟิล 1 ลิตร 79 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) WICE (Bloomberg Consensus - บาท)   โตสวนกระแสโควิด-19 มองทิศทางไตรมาส 2/2563 สดใส หลังความต้องการจากจีนเพิ่มเท่าตัว ด้านการขนส่งในประเทศหันใช้รถเพิ่มจากราคาน้ำมันที่ถูกลง หนุนอัตรากำไรเพิ่มวางงบลงทุน 200 ล้านบาท ซื้อหุ้น WICE สิงคโปร์ที่เหลือ 30% ตามแผน มั่นใจเป้ารายได้โต 20% แตะ 2,700 ล้านบา (ที่มา ทันหุ้น)

·          (+/-) RATCH (Bloomberg Consensus 74.80 บาท) จัดงบ 662 ล้านบาท ลงทุนโรงไฟฟ้าเน็กซิฟ เอ็นเนอร์จี้ ระยอง กำลังการผลิต 92 เมกะวัตต์ คาด COD เดือนเมษายนปี 2565 เดินหน้าขยายการลงทุน เอเชีย และออสเตรเลีย โบรกชี้กำลังการผลิตใน 5 ปี แตะ 7 พันเมกะวัตต์ คาดกำไรปี 2567 แตะ 7.6 พันล้านบาท ร่วมทุนกับ GULF ต่อเนื่อง หนุนโอกาสเติบโตทั้งคู่ เคาะพื้นฐาน 77 บาท (ที่มา ทันหุ้น)