ราคาน้ำมันปิดปรับตัวขึ้นหลัง‘ทรัมป์’ขู่โจมตีเรืออิหร่าน

ราคาน้ำมันปิดปรับตัวขึ้นหลัง‘ทรัมป์’ขู่โจมตีเรืออิหร่าน

ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัส พุ่งกว่า 2 ดอลลาร์ หลัง“ทรัมป์”ขู่โจมตีเรืออิหร่าน และราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 13.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลารฺ ปิดที่ 20.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของทวีตข้อความว่า เขาได้สั่งให้กองทัพเรือสหรัฐทำการยิงและทำลายเรือปืนของอิหร่านทุกลำ หากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันเวสต์เท็กซัส ปรับตัวผันผวนก่อนหน้านี้ โดยสัญญางวดส่งมอบเดือนพ.ค. ทรุดตัวลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อวันจันทร์ ก่อนที่จะพุ่งขึ้นกว่า 100% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบของสัญญาน้ำมันดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่รัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการล็อกดาวน์ ด้วยการสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และห้ามการเดินทางเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกจำกัดจากการที่คลังเก็บน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ท่ามกลางภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่สต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์

สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ออกรายงานระบุว่า วิกฤตการณ์จากแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบทำให้อุปสงค์น้ำมันลดลง 29 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี ขณะที่ประเทศต่างๆพากันออกมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19

โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ถือว่าน้อยเกินไป และยังไม่มากพอที่จะช่วยชดเชยผลกระทบของอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

โกลด์แมน แซคส์ ยังคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงร่วงลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากสต็อกน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าโอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดอุปทานน้ำมันในตลาดโลกก็ตาม