กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนปิโตรเลียมราคาต่ำยังมีโมเมนตัมเป็นบวก

สัญญาณล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เดือนมิ.ย.ยังคงปรับตัวลดลง ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์และดูไบปรับตัวลดลงเช่นกัน สะท้อนปัญหาอุปทานส่วนเกิน 1) ในรอบนี้รุนแรงเนื่องมาจากคลังเก็บน้ำมันทั่วโลกมีการใช้ไปแล้วกว่า 70% จึงทำให้เกิดความกังวลภาวะน้ำมันล้น 2) ราคาน้ำมันล่วงหน้าเดือนไกลมีแนวโน้มราคาเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ยังต่ำกว่ากว่าระดับ 40 เหรียญฯ/บาร์เรล ซึ่งแปลว่าธุรกิจ น้ำมันจากหินดินดาน (Shale oil) จะยังอยู่ในระดับขาดทุนอีกนาน ซึ่งอาจจะมีผู้ประกอบการทนไม่ไหวและต้องปิดตัว 3) ราคาน้ำมันน่าจะอยู่ในระดับต่ำนานจนกว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงของสมดุล ซึ่งโอกาสที่ความต้องการใช้จะฟื้นเร็วๆ น่าจะยากกว่าการที่อุปทานหายไปจากการหยุดผลิต 4) หุ้นที่ต้นทุนอิงปิโตรเลียมจะได้ประโยชน์ ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นอย่าง SCC, IVL, PTL, EPG, STA, TASCO

ตัวเลขส่งออกมี.ค.ที่ +4.17% สูงสุดรอบ 8เดือน มาจากการเติบโตของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าเกษตร ขณะที่หากหักทองคำและยุทธปัจจัย การส่งออกมี.ค. +2.12% ซึ่งถือว่าเริ่มมีสัญญาณบวกและเป็นการสะท้อนผลกระทบจากสงครามการค้าที่กดดันอย่างมากในช่วงปลายปี 2562 เรามองภาวะโควิดและการส่งออกเป็นบวกต่อกลุ่มอาหาร CPF ขณะที่อาจเกิดแรงเก็งกำไรหุ้นอาหาร/เกษตรขนาดเล็ก อาทิ APURE, MALEE, ASIAN ซึ่งควรเก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง

ผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคาร KBANK และ BBL รายงานกำไรปรับลดลง สาเหตุหลักมาจากการปรับลดมูลค่ายุติธรรม ของเงินลงทุนที่ผันผวนจากภาวะตลาดที่เริ่มรับรู้จากการใช้มาตรฐาน IFRS9 ซึ่งผลกระทบดังกล่าวน่าจะชะลอลงในไตรมาส 2/63 อย่างไรก็ตามกลุ่มธนาคารยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและคุณภาพของลูกหนี้ที่อ่อนแอลง

สัปดาห์หน้า พิจารณาต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงพิจารณาข้อเสนอปลดล็อกธุรกิจ ซึ่งเราประเมินอาจเริ่มเห็นการปลดล็อคชุดแรกต้นพ.ค.จำนวน 32-35 จังหวัด (ไม่พบผู้ติดเชื้อมาเกิน 14 วัน) และจังหวัดที่เหลือในช่วงกลางเดือนพ.ค. อย่างไรก็ตามสำหรับ 7 จังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นและยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องอย่าง กรุงเทพ, นนทบุรี, สมุทรปราการ, ชลบุรี, ภูเก็ต, ปัตตานี และยะลา คาเว่าจะเปิดเมืองได้ราวต้นมิ.ย.

ภาพรวมกลยุทธ์ โมเมนตัมยังดีในกลุ่มต้นทุนอิงปิโตรเลียม, ไฟฟ้า และสื่อสาร ภาพรวมยังมองเป็นแค่ technical rebound ที่มีแนวต้าน 1245-1270 จุด และใช้การหลุด 1205 และ 1185 จุด เป็นจุดทยอยขายชะลอการเก็งกำไร // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร IVL, PTL, EPG*/ ขายชอร์ต AOT* 

แนวรับ 1,223-1,239 / แนวต้าน : 1,270-1,286 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

WHO เตือนยังไม่ควรผ่อนคลายมาตรการ Lock down ในตอนนี้ – องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เตือน การผ่อนคลายมาตรการ Lock down ที่เร็วเกินไปอาจทำให้เชื่อไวรัส Covid-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง โดยผู้อำนวยการ WHO กล่าวว่ารัฐบาลทั่วโลกยังไม่ควรผ่อนคลายมาตรการ Lovk down ในตอนนี้

วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างเยียวยา $4.84 แสนล้าน – วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างมาตรการเยียวยาวงเงิน $4.84 แสนล้าน หนุนกลุ่มธุรกิจขนาดเลก็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต Covid-19 รวมถึงสนับสนุนการตรวจหาเชื้อ Covid-19 เพิ่มขึ้น

US GDP ไตรมาส 2/63 คาดทรุดหนักเป็นประวัติการณ์ – ทำเนียบขาวกล่าวว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือ GDP ไตรมาส 2/63 คาดทรุดตั่วต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จากผลของมาตการ Lock down

พลังงานเดินหน้าลดค่าไฟผู้ประกอบการเอกชน – กระทรวงพลังงานเดินหน้ารวบรวมข้อมูลลดค่าไฟให้กับกลุ่มผู้ประกอบการเอกชนหลังครม.มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือนในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.

ประเด็นติดตาม: 23 เม.ย. – EU PMI เดือน เม.ย. / US PMI เดือน เม.ย. / ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของไทย, 20-24 เม.ย. – ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/63

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)