'อินเด็กซ์' สร้างวัคซีนธุรกิจ ลุย Non-event กู้รายได้

'อินเด็กซ์' สร้างวัคซีนธุรกิจ ลุย Non-event กู้รายได้

วิกฤติโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่นี้ ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติ ระบบเศรษฐกิจหยุดชะงัก จึงทำให้ผู้ประกอบการต่างงัดทุกวิถีทางเพื่อนำพาองค์กรให้อยู่รอด

ธุรกิจอีเวนท์ ทั้งห่วงโซ่มีมูลค่ากว่า 2.3 แสนล้านบาท แต่ตลกร้ายสำหรับผู้ประกอบการ เนื่องจากมาตรการรัฐในการฟื้นธุรกิจ วงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 5 แสนล้านบาทนั้น ธุรกิจอีเวนท์กลับไม่ได้ถูกโฟกัสเท่าที่ควร ทั้งๆที่ได้รับผลกระทบหนักไม่แพ้หลายธุรกิจ    

เกรียงไกร กาญจนะโภคิน  ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เล่าว่า เมื่อโรคโควิดระบาด รัฐมีมาตรการมากมายป้องกันโรค แม้ไม่ห้ามจัดอีเวนท์ แต่การปิดห้างค้าปลีก สถานที่ต่างๆ ศูนย์ประชุม ที่ล้วนใช้งาน มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และกำลังซื้อ 10 หดหาย ทุกอย่างหยุดนิ่ง บ้านเมืองล็อกดาวน์ การจัดอีเวนท์จึงถูกระงับโดยปริยาย

158747964120

อินเด็กซ์มีพนักงานร่วม 400 ชีวิต และต้องหาเงินดูแลพนักงาน การเลี้ยงคนและประคองธุรกิจองค์กรให้ยืนระยะได้บนวิกฤติ จึงต้องปรับตัวหารายได้เข้ามายังบริษัท เมื่อเห็นโอกาสทางการตลาดเปิดให้บริการพ่นเปรย์ฆ่าเชื้อแบบพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์KILL & KLEAN” ชูคอนเซปต์ผู้นำเทคโนโลยีเพื่อปกป้องคุณและคนที่คุณรัก โดยชิมลางให้บริการแก่หน่วยงานองค์กรรัฐ เอกชน และที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งผลตอบรับเป็นไปในทิศทางที่ดี

ทั้งนี้ โรคโควิดในไทยเข้าสู่เดือนที่ 2 การป้องกันแพร่ระบาดยังเป็นไปอย่างเข้มข้น ส่วนทั่วโลกที่ผ่านมาเห็นมาตรการป้องกันโรคมากมาย หนึ่งในนั้นคือการพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อเกิดขึ้นทั้วโลก เพราะทุกภาคส่วนหวังให้บ้านเมืองปลอดเชื้อและโลกกลับมาน่าอยู่ประชาชนใช้ชีวิตได้ปกติดังเดิม เรียกว่ามีมาตรการใดที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค ต่อสู้โควิดได้ ทุกภาคส่วนลงมือปฏิบัติการทั้งสิ้น

เราเริ่มธุรกิจเพื่อหาทางอยู่รอด แต่ในฐานผู้นำ ไม่ได้มองแค่การอยู่รอดแล้ว ทำเพื่อการเติบโตและเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ พร้อมกับทำให้โลกน่าอยู่โดยเร็ว ไม่ต้องใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างทางสังคม ทุกอย่างฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิม

158748006532

เมื่อหมายมั่นจะสร้างการเติบโตธุรกิจให้บริการพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ ความเสี่ยงดีมานด์หายไปหลังโควิดคลี่คลาย แต่ เกรียงไกร” เชื่อว่าการใส่ใจ รักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพ(Hygene)จะกลายเป็นสิ่งปกติใหม่(New Normal)ในอนาคตอย่างแน่นอน ห้างร้าน สถานที่ต่างๆอาจต้องติดตั้งอุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้าพื้นที่ ไม่ต่างจากการติดตั้งเครื่องสแกนวัตถุ อาวุธอันตรายที่สนามบินทั่วโลกนั่นเอง

เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่เจอศึกหนัก ทำธุรกิจไม่ได้ แต่การหารายได้จำเป็นเพราะค่าใช้จ่ายมี จึงผุดโมเดลแฟรนไชส์ เพื่อให้คนมีรายได้ โดยเสนอแพ็คเกจเริ่มต้นลงทุน 3 ขนาด ได้แก่ ไซส์เอส(S)200,000 บาท เอ็ม(M)250,000 และแอล(L) 300,000 บาท มีเงื่อนไขสำคัญคือซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อทุกเดือน ส่วนผลตอบแทนการลงทุน หากหมั่นหาลูกค้าให้บริการ 10 จุดต่อวัน สามารถคืนทุนได้ โดยบริษัทจะช่วยเรื่องข้อมูลลูกค้า การทำโปรโมชั่น สร้างการรับรู้แบรนด์ ความน่าเชื่อถือ จูงใจลูกค้า

158747952228

การรุกธุรกิจใหม่ วางเป้ารายได้เพียง 20-30 ล้านบาทเท่านั้น แม้จะน้อยแต่เป็นการออกสตาร์ทสู่ธุรกิจที่ไม่ใช่อีเวนท์(Non-Event business) ที่ดีเพื่อสร้างวัคซีนธุรกิจให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งปีหน้าจะเห็นธุรกิจที่ไม่ใช่อีเวนท์เพิ่ม 3 โปรเจค

เหตุการณ์โควิดทำให้บริษัทต้องสร้างวัคซีนป้องกันความเสี่ยงธุรกิจ ซึ่งวัคซีนคือการขยายลงทุนในต่างประเทศ ธุรกิจที่ไม่ใช่อีเวนท์ ทำให้สัดส่วนรายได้แตะ 50% เท่ากับอีเวนท์จึงจะสมดุล

ปีนี้ธุรกิจอีเวนท์แสนล้าน คาดว่าพิษโควิดเล่นงานตลาดหดตัว 80% ส่วนบริษัทคาดว่ากระทบ 50% จากปีก่อนมีรายได้ 1,600 ล้านบาท เนื่องจากอีเวนท์ไม่สามารถจัดได้เลย และดูไบ เอ็กซ์โป คาดว่าจะเลื่อนออกไป 1 ปี จัดตุลาคม ปี 2564 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ประกาศ

158747975815

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ประกอบการมองบวกว่าโควิดจะคลี่คลายภายในเดือนตุลาคม เกิดบรรยากาศการจัดอีเวนท์ แต่จะไม่ใช่บันเทิง ธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาได้เร็ว ส่วนกรณีเลวร้ายสุดคาดว่าโควิดคลี่คลาย ทุกอย่างเดินหน้าต้นปี 2564

ธุรกิจอีเวนท์เม็ดเงินหายไปมหาศาล เป็นความเจ็บปวดสุด แต่หากเทียบประสบการณ์ทำธุรกิจมา 30 ปี วิกฤติต้มยำกุ้งหนักกว่านี้ แม้ไม่มีการล็อคดาวน์ แต่คนไม่มีเงินจัดอีเวนท์เลย ใช้เวลากว่า 1 ปีจึงฟื้นตัวกลับมาได้ แต่หากโควิดคลี่คลายเชื่อว่าทุกอย่างจะฟื้นตัวได้เร็ว