'ด่านสะเดา' พบคนไทยเสี่ยงสูง 20 ราย เร่งตรวจแล้ว สรุปกักตัว 212 คน

'ด่านสะเดา' พบคนไทยเสี่ยงสูง 20 ราย เร่งตรวจแล้ว สรุปกักตัว 212 คน

นายอำเภอสะเดา ลงพื้นที่ด่านสะเดา พบคนไทยเสี่ยงสูง 20 ราย เร่งตรวจแล้ว กักตัว 212 คน สรุปยอดคนไทยตกค้างในมาเลเซีย ผ่านเข้ามาทางด่านพรมแดนสะเดาทั้งสิ้น 301 คน

เมื่อเวลา 10.00 น. นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา เปิดเผยว่าที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน จนกระทั่งถึงวันนี้ สรุปยอดคนไทยที่ตกค้างในมาเลเซียที่ผ่านเข้ามาทางด่านพรมแดนสะเดาทั้งสิ้น 301 คน และเป็นคนใน 5 จังหวัดที่ส่งกลับภูมิลำเนาทั้งสิ้น 69 คน เป็นคนในจังหวัดอื่นๆ ที่ต้องกักตัวอีก 14 วันที่ อ.สะเดา ทั้งสิ้น 212 คน

ในจำนวนนี้พบผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและต้องส่งไปโรงพยาบาลเพื่อเพาะเชื้อตรวจหาโรคทันที จำนวน 20 คน และผลตรวจออกมาแล้วทั้งหมด ซึ่งเป็นข่าวดีที่พบว่าทุกคนมีผลเป็นลบทั้งหมด ไม่มีผู้ใดที่พบเชื้อโควิด-19 แต่ทั้งนี้ทุกคนยังต้องอยู่ในพื้นที่เพื่อกักตัวต่อไปอีก 14 วันตามกำหนดเช่นเดิม

ในด้านปัญหาที่พบตลอด 3 วันที่ผ่านมา นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี ยังบอกอีกว่า ยังไม่พบผู้ลักลอบเข้าเมืองผ่านทางช่องทางธรรมชาติแต่อย่างใด เนื่องจากทางฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจ ทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ คอยตรวจตราช่องโหว่ที่อาจจะทำให้มีพี่น้องคนไทยแอบลักลอบเข้าผิดกฎหมาย เพื่อเป็นการป้องกันมาโดยตลอด จะพบปัญหาเพียงแค่เรื่องของข้อมูลที่ลงทะเบียนมาไม่ตรงกับความเป็นจริง

158744533554

เช่นในเอกสารแจ้งว่าเป็นคนที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ลงทะเบียนเพื่อกลับไปจังหวัดอื่นที่ไม่ตรงตามเอกสาร ในเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือส่งชาวไทยเหล่านี้กลับไปในภูมิลำเนาตามที่อยู่ในบัตรประชาชน

อีกประเภทที่พบคือยื่นความจำนงเข้าทางด่านอื่นๆ แต่ไม่สามารถเดินทางไปได้เพราะในประเทศมาเลเซียก็ประกาศปิดเมืองห้ามเดินทางข้ามเมือง จึงจำเป็นต้องเข้ามาทางด่านสะเดาแทน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดูความจำเป็นแหตุสุดวิสัย หากมีเอกสารครบถ้วนและผ่านการคัดกรองจากทางกงสุลไทย ณ กรุงปีนังมาแล้ว ทางด่านสะเดาก็จะปล่อยให้เข้ามา และส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป

แต่หลังจากวันนี้เป็นต้นไป นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะดำเนินการตามเอกสารที่ทางกระทรวงต่างประเทศแจ้งมาเท่านั้น เพื่อที่จะเดินทางออกตามช่องทางที่ได้ลงทะเบียนไว้เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้ไม่มีปัญหาในภายหลัง