โควิด กับวิถีการลงทุน

โควิด กับวิถีการลงทุน

ในช่วงที่วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนและตลาดหุ้น นักลงทุนจะสามารถจัดพอร์ตการลงทุนได้อย่างไรบ้าง?

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน เราก็ยังคงต้องใช้ชีวิตของเราอยู่กับการแพร่กระจายของไวรัสโควิดมากว่าสองเดือนแล้ว เมื่อเดือนที่แล้วผมได้เขียนเกี่ยวกับผลกระทบ ของการแพร่ระบาดต่อตลาดเงินตลาดทุนต่างๆ และมาถึงวันนี้ผลกระทบดังกล่าวก็ได้แพร่กระจายไปในทุกระบบเศรษฐกิจ

ล่าสุด IMF ก็ได้ประกาศการคาดการณ์ของการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกว่าจะเติบโตลดลงหมด โดยคาดว่าการเติบโตปีนี้จะติดลบกว่าร้อยละ 3 และการติดลบนี้เกิดขึ้นกับแทบทุกประเทศ อาจมีเพียงแค่สองประเทศที่ยังบวกได้ แต่ก็เพียงปริ่มๆ เช่น จีนกับอินเดียของไทยเราที่เศรษฐกิจยังพึ่งพิงกับการส่งออก การท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศก็ต้องได้รับผลกระทบจนติดลบเช่นกัน

วันนี้เราลองมาสำรวจดูว่าจากการที่ตลาดหุ้นและตลาดทุนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบนั้น จะส่งผลต่อพอร์ตการลงทุนของเราอย่างไร ผมลองจัดพอร์ตการลงทุนเป็น 3 แบบด้วยกันตามระดับความเสี่ยง พอร์ตแรกสำหรับความเสี่ยงต่ำ พอร์ต 2 ความเสี่ยงปานกลาง และพอร์ต 3 สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง โดยแต่ละพอร์ตมีสัดส่วนการลงทุนดังนี้

158714192010

เราลองมาดูว่าผลตอบแทนและความเสี่ยงของแต่ละพอร์ตจะเป็นอย่างไร โดยในที่นี้ผมได้วัดผลการลงทุนจนถึงวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมานะครับ

158714196114

จะเห็นว่าเมื่อสิ้นสุดการลงทุนเมื่อวันที่ 10 เมษายน มีเพียงพอร์ตเสี่ยงต่ำที่ยังคงให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก โดยพอร์ตเสี่ยงกลางนั้น มูลค่าพอร์ตการลงทุนลดลงร้อยละ 1.2 ในขณะที่พอร์ตเสี่ยงสูงนั้นติดลบ 4.1 ตัวเลขในวงเล็บด้านหลังเป็นการปรับเป็นร้อยละต่อปี ตัวเลขความผันผวนที่แสดงในคอลัมน์ถัดมาก็จะสะท้อนถึงความผันผวนของผลตอบแทนรายวันและปรับเป็นต่อปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพอร์ตเสี่ยงต่ำมีความผันผวนของผลตอบแทนรายวันต่ำสุด ตามมาด้วยเสี่ยงกลางและเสี่ยงสูง นั่นแสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดต่อตลาดทุนและต่อพอร์ตการลงทุนของเราๆ ทุกคน

ตัวเลขที่ผมอยากหยิบยกมาให้เห็น คือตัวเลขในช่องการปรับตัวลดลง สูงสุด (maximum drawdown) ตัวเลขดังกล่าวหมายถึงตัวเลขที่พอร์ตการลงทุนมีการปรับตัวลดลงสูงสุดในช่วงเวลาที่ลงทุน (เช่น จากจุดที่พอร์ตขึ้นไปสูงสุดและปรับตัวลงมาต่ำสุด) เป็นตัวเลขอีกตัวที่เราใช้วัดความเสี่ยงจากการลงทุน

โดยในกรณีของพอร์ตเสี่ยงต่ำ แม้ว่าเมื่อวันที่ 10 เมษายน พอร์ตการลงทุนจะมีมูลค่า 101.36 ซึ่งเราจะเห็นว่าผลตอบแทนเป็นบวก แต่ระหว่างปีนั้นพอร์ตนี้เคยขึ้นไปทำมูลค่าสูงสุดที่ 101.6 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม และมีการปรับตัวลดลงมาต่ำสุดที่ 98.54 หรือขาดทุนไปร้อยละ 1.5 จากเงินลงทุนเริ่มต้น และปรับตัวลดลงมากถึงเกือบร้อยละ 3 จากจุดสูงสุดของเงินลงทุน หลังจากนั้นจึงค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ตัวเลข maximum drawdown นี้จึงทำให้เรามองเห็นความเสี่ยงจากการลงทุนของเราได้ดีขึ้นกว่าการดูที่ค่าความผันผวนเพียงอย่างเดียว

เช่นเดียวกันตัวเลขการปรับตัวลดลงสูงสุดของพอร์ตเสี่ยงกลางมีค่าเท่ากับร้อยละ 11.7 ซึ่งค่อนข้างสูงนั่นแสดงว่า พอร์ตนี้เคยลดต่ำลงถึงประมาณ 11.7 จากจุดสูงสุด เมื่อดูรายละเอียดจะพบว่าแม้พอร์ตนี้จะมีมูลค่าต่ำกว่าร้อยเมื่อวันที่ 10 เมษายนก็ตาม แต่พอร์ตนี้เคยขึ้นไปทำกำไรสูงสุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นได้ปรับตัวลดลงมาอย่างรวดเร็วจนมาต่ำสุดที่ 90.88 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม หรือเพียง 1 เดือนถัดมา และเช่นเดียวกัน พอร์ตเสี่ยงสูงจะมีค่าการปรับตัวลดลงสูงสุด สูงที่สุดในพอร์ตทั้งสามประเภทที่ร้อยละ 18.2 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับพอร์ตเสี่ยงต่ำ และเสี่ยงกลาง

แม้ว่าตัวเลขที่นำมาเสนอในวันนี้จะแสดงถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดต่อพอร์ตการลงทุนของเรา แต่ผมยังอยากให้นักลงทุนเห็นถึงความสำคัญของการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ในกรณีนี้หากในพอร์ตไม่มีการกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ หรือทองคำ ผลตอบแทนอาจลดต่ำกว่านี้ก็ได้ และสองตัวเลขการปรับตัวลดลงสูงสุดนั้น จะช่วยทำให้เราเห็นภาพความเสี่ยงของการลงทุนได้มากขึ้นกว่าตัวเลขค่าเฉลี่ยผลตอบแทนและความผันผวน

ท้ายสุดนี้ผมขอให้กำลังใจท่านผู้อ่านทุกท่านมีกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็ง และสามารถฟันฝ่าช่วงเวลานี้ไปได้อย่างปลอดภัยครับ