คมนาคมชงแผนฟื้นฟู ขสมก.เข้า ครม.ภายใน ก.ค.นี้

คมนาคมชงแผนฟื้นฟู ขสมก.เข้า ครม.ภายใน ก.ค.นี้

คมนาคม คาดชงแผนฟื้นฟู ขสมก.เข้า ครม.ภายใน ก.ค.นี้ เดินหน้าประมูลเช่ารถอีวี 2,511 คัน พร้อมเสนอขออนุมัติเงินจากรัฐ 9.6 พันล้าน หนุนธุรกิจ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมเพื่อปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในเดือน ก.ค.นี้ โดยหาก ครม. เห็นชอบตามแผน ขสมก. ก็จะเร่งจัดทำเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อเปิดประมูลเช่ารถใหม่ทันที ซึ่งเบื้องต้นจะจัดหาเป็นรถแบบพลังงานไฟฟ้า (อีวี) ปรับอากาศ จำนวน 2,511 คัน และคาดว่าจะสามารถนำรถใหม่มาให้บริการรถได้ตั้งแต่ มี ค. 2564 เป็นต้นไป

สำหรับแผนฟื้นฟู ขสมก.จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน เพราะจะมีการจัดเก็บค่าโดยสาร 30 บาทต่อคนต่อวัน ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 20 บาทต่อวัน อีกทั้งจะช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด เนื่องจาก ขสมก.จะปรับลดเส้นทางที่ซ้ำซ้อน เหลือวิ่งเพียง 108 เส้นทาง ทำให้จำนวนรถบนถนนลดลงเหลือเพียง 4,500 คัน นอกจากนี้ จะช่วยลดมลภาวะ และ PM 2.5 เนื่องจากเป็นการจัดหารถอีวีทั้งหมด ซึ่งมีเทคโนโลยี ลดมลภาวะได้

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน ขสมก.มีปัญหาสถานะทางการเงิน โดย ณ วันที่ 29 ก.พ.2563 ขสมก.มีหนี้สะสม 1.29 แสนล้านบาท ซึ่งตามแผนฟื้นฟู ขสมก.จะขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลรวม 9,674 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 7 ปีเริ่มตั้งแต่ปี 2565-2571 เพื่อให้ ขสมก.เลี้ยงตัวเองได้ โดยตั้งเป้าว่าตั้งแต่ปี 2572 ขสมก. จะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยมี EBITDA เป็นบวก

ด้านนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. ระบุว่า หาก ครม.มีมติอนุมัติแผนฟื้นฟู ขสมก.จะดำเนินการเปิดประมูลเช่ารถในเดือนก.ค.นี้ทันที เนื่องจากจัดทำร่างทีโออาร์ไว้แล้วคาดว่าจะได้ตัวผู้ชนะการประมูลต้นเดือน ก.ย.2563 และลงนามในสัญญาได้ปลายเดือนดังกล่าว โดยเอกชนจะเริ่มส่งมอบรถใหม่ได้ตั้งแต่เดือน มี.ค.2564 เป็นต้นไป และส่งมอบให้ครบ 2,511 คัน ภายใน 6 เดือน หรือภายใน ส.ค. 2564 ส่วนแผนการปรับลดพนักงานของ ขสมก.จำนวน 5,300 คน ขสมก.มีแผนจะเปิดโครงการเออรี่รีไทร์ หรือสมัครใจลาออก เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย.2564 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 4 พันล้านบาท