อ่อนตัว

เราคาดว่าดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1246 / 1256 จุด แนวรับ 1220 / 1205 จุด สัญญาณทางเทคนิคเตือนดัชนีฯ จะมีการปรับฐานไปที่ 1205 จุด หลังจากไม่สามารถทะลุแนวต้าน 1268 จุด (ค่าเฉลีย 50 วัน) และเกิดสัญญาณ Overbought Area ของ RSI, Stochastic

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

1) ตลาดหุ้นโลกร่วงหลัง IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้เข้าสู่ภาวะถดถอย และสหรัฐฯ รายงานตัวเลขค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตฯ เดือน มี.ค. แย่สุดรอบหลายปี

2) ราคาน้ำมันดิบร่วงต่อหลัง IEA คาดอุปสงค์น้ำมันดิบลดลง 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปีนี้ แม้กลุ่มโอเปคพลัสจะลดการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล ก็ตาม

3) แนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มทั่วโลก คาดทยอยประกาศ หลังการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ในหลายประเทศใกล้ผ่านจุดสูงสุด

4)ฤดูประกาศงบการเงินเริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยสหรัฐฯ รายงานกลุ่มการเงินแย่กว่าคาด

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: OPEC-รายงานน้ำมันโลกประจำเดือน / USA-รายงานจำนวนผู้ข้อรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

- ตลาดหุ้นไทยปรับตัววันแรกหลังขึ้น 3 วัน: ดัชนีตลาดฯ ปรับลดลงในภาคบ่าย และลงมาปิดใกล้ระดับต่ำสุดของวันที่ 1236.10 จุด -20.25 จุด หรือ -1.61% วอลุ่ม 6.94 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำลง คือ มีเดีย -3.47% โรงพยาบาล -3.18% ชิ้นส่วนอิเล็กฯ -3.14% พาณิชย์ -2.68% หุ้นปรับลงกว่า4% ได้แก่ MINT BEM KCE WHA COM7 VGI AMATA BJC BH JMT BCH ESSO PLANB ส่วนหุ้นปรับขึ้นสวนตลาด คือ PTTGC THCOM ACAP STARK TRC VNG ITD

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดร่วง: การวิตกต่อผลประกอบการกลุ่มธนาคารและรายงานค้าปลีกที่แย่สุดตั้งแต่จัดเก็บข้อมูล เป็นปัจจัยถ่วงตลาดวานนี้ DJIA -1.86% S&P500 -2.2% Nasdaq -1.44% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วงแรงวิตกผลกำไร 1Q-2Q20E ของยุโรปจะร่วง 22% QoQ และ 34.2% ตามลำดับ DAX -3.9% CAC40 -3.76% FTSE -3.34%

- น้ำมันดิบและทองคำปิดร่วง: WTI -USD0.24 -1.19% ปิดต่ำสุดตั้งแต่ปี 2002 ที่USD19.87/บาร์เรล Brent -USD1.91 -6.6% ปิด USD27.69/บาร์เรล หลังEIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 19.2 ล้านบาร์เรล และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 12 (Vs ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 10.1 ล้านบาร์เรล) ส่วนทองคำปิดร่วงลงเล็กน้อยที่ USD1740.20/ออนซ์ -USD28.70 -1.62% จากแรงขายทำกำไรหลังค่าเงิน USD กลับมาแข็งค่าครั้งแรกในรอบ 5 วัน

ประเด็นสำคัญ

+/- COVID-19 Update ณ วันที่ 15 เม.ย.: พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 2.04 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 1.33 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 6.32 แสนราย เสียชีวิต 2.78 หมื่นราย USA-ปธน.ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ ผ่านจุด Peak out แล้ว ไทย-รายงานผู้ติดเชื้อวานนี้เพิ่มขึ้น 34 ราย เป็นสะสม 2,613 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็น 41 ราย และกพท. ขยายเวลาห้ามบินเข้าประเทศไทยเพิ่มในวันที่ 19-30 เม.ย.

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA-จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 เม.ย. คาดลดลงเหลือ 5 ล้านราย (DJ Consensus) Vs สัปดาห์ก่อนหน้า6.6 ล้านราย และ 6.9 ล้านราย ตามลำดับ, Housing Starts เดือน มี.ค. คาด -19.6% MoM (Vs เดือน ก.พ. -1.5%) EU-Industrial Production เดือน ก.พ. คาด -0.2% MoM (Vs เดือน ม.ค. +2.3% MoM) Japan-Reuter Tankan Index เดือน เม.ย. คาด -28 (Vs เดือน มี.ค. -20)

- 1Q20E Earnings Results: USA-วันนี้จับตารายงาน EPS ของ Taiwan Semiconductor (คาด USD0.66) Blackrock (USD6.45) Morgan Stanley คาด EPS USD1.31 วานนี้ กำไรดีกว่าคาด คือ United Health (USD3.72 Vs คาด USD3.65) กำไรแย่กว่าคาด คือ Goldman Sachs (USD3.11 Vs คาด USD3.35) Citigroup (USD1.05 Vs คาด EPS USD1.87) Bank of America (USD0.4 Vs คาด USD0.42)