น้ำมันกดดันตลาด
ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้น 19.57 จุด คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิ-19 ทั่วโลกเริ่มมีทิศทางดีขึ้น
ขณะที่ภายในประเทศเมื่อวานนี้เผยยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 34 คน โดยดัชนีถูกหนุนโดยกลุ่มท่องเที่ยว โรงพยาบาล และธนาคาร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,256.35 จุด (+19.57 จุด) Volume 4.9 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,188.37 ลบ. TFEX Net -3,638 สัญญา ตราสารหนี้ -476 ลบ.
ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ
+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 558.99 จุด +2.39% ขานรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น และคาดว่าสหรัฐจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
+ปธน.ทรัมป์เผยรัฐบางแห่งในสหรัฐอาจกลับมาเปิดเศรษฐกิจได้อีกครั้งภายในวันที่ 1 พ.ค.นี้
+เจพีมอร์แกน เชสเผยภาคเอกชนเตรียมส่งพนักงานกลับเข้าออฟฟิศเดือนมิ.ย.
-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 2.30 ดอลลาร์ -10.3% ปิดที่ 20.11 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก IMF ปรับลดคาดการณ์ศก.โลกในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 และอาจทำให้อุปสงค์น้ำมันลดลง
-IMF คาดศก.โลกปีนี้จะหดตัว 3% และอาจเกิดวิกฤตการเงินรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิด The Great Depression ในปีค.ศ. 1930
-สหรัฐเผยดัชนีราคานำเข้าร่วงหนักสุดรอบกว่า 5 ปีในเดือนมี.ค.
-ทองคำปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อของกองทุน SPDR ซึ่งถือสถานะสูงสุดในปีนี้
-โกลด์แมน แซคส์คาดโควิด-19 ฉุดศก.ประเทศพัฒนาแล้วหดตัว 35% ใน Q2/63
-สมาคมธนาคารไทยมองผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เบื้องต้นราว 1.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 7.7% ของ GDP
-S&P ปรับลดเรตติ้งของประเทศไทยลงจาก “Positive” เป็น “Stable” เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง
-วานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต +44.23 จุด +1.59% เช้านี้เปิด -0.62 จุดจับตาข้อมูลศก.จีน
-วานนี้ดัชนีนิกเกอิปิด +595.41 จุด +3.13% เช้านี้เปิด -49.56 จุด วิตก IMF เตือนศก.ถดถอย
-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.37 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.66 บาท/US
*จับตาการประชุมครม. สหรัฐเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. และยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลง หลัง IMFเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930 ประกอบถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรงกว่า -10% คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,240-1,270 จุด
หุ้นรายงานพิเศษ
Bloomberg Consensus ประมาณกำไรของหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วง 1Q63 เฉลี่ย 3.4 หมื่นล้านบาท -2%QoQ และ -14%YoY ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าเป็นผลกระทบจากการเติบโตของสินเชื่อชะลอตัว และการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้า ทั้งนี้หุ้นกลุ่มธนาคารจะทยอยประกาศงบการเงินตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.เป็นต้นไป
ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารเป็น “Neutral” เน้นลงทุนหุ้นที่มี yield สูง ได้แก่ KKP (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 57.51 บาท, IAA Consensus คาด yield 9.8%) TISCO (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 88.45 บาท , IAA Consensus คาด yield 8.7%)
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
- หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Lockdown (MAKRO BJC CPALL TU TFMAMA)
- หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
- 5 หุ้นเด่น IAA (ADVANC CPF CPALL INTUCH RATCH)
หุ้นมีข่าว
(-) PTTGC (Bloomberg Consensus 41.88 บาท) TOP (Bloomberg Consensus 45.79 บาท) ไตรมาส 1/63 อ่วม! แบกรับขาดทุนสต๊อกน้ำมัน โบรกฯส่งสัญญาณไตรมาส 2/63 เริ่มเป็นบวก เหตุความเสี่ยงจำกัด คาดจะเห็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป (ที่มา ข่าวหุ้น)
ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการใน 1Q63 เป็นจุดต่ำสุดของปีนี้เนื่องจากถูกกดดันจากขาดทุนสต๊อกน้ำมัน อย่างไรก็ตามราคาที่ปรับตัวลงได้รับรู้ข่าวดังกล่าวไปแล้ว ทั้งนี้ เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q63 จะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น
(+) ITEL (Bloomberg Consensus - บาท) มีลุ้นฮุบงานใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 300 ล้านบาท ภายใน 2 เดือนนี้ ล่าสุดคว้างานกปภ.มูลค่า 17.12 ล้านบาท คาดเซ็นสัญญา เม.ย.นี้ พร้อมลุยปรับกลยุทธ์รับมือโควิด-19 เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายให้ลูกค้าทุกราย (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+/-) BAM (Bloomberg Consensus - บาท) ผู้บริหาร BAM มั่นใจงบ Q1 ตามเป้ายันโควิดไม่กระทบ โบรกฯมองฐานะการเงินแกร่ง เงินสดล้นมือกว่า 1 หมื่นล้าน เพียงพอจ่ายปันผลได้ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 1 บาทต่อหุ้น และยังสามารถนำไปซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มได้อีก ราคาเหมาะสม 25.0 บาทต่อหุ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+/-) STA (Bloomberg Consensus 15.53 บาท) “ศรีตรังโกลฟส์” หรือ STGT เตรียมขายหุ้น IPO ไม่เกิน 444.78 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปีนี้ เล็งระดมทุนไปขยายกำลังการผลิตถุงมือยาง ลงทุนติดตั้งระบบ SAP รวมถึงชำระเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน (ที่มา ข่าวหุ้น)
(-) “กสทช.” นัดประชุมกับ 5 ค่ายมือถือวันนี้ เพื่อหารือมาตรการลดค่าบริการ 10-30% ให้ประชาชนในช่วงโควิด-19 ระบาด พร้อมส่งหนังสือถึงค่ายมือถือ ย้ำต้องให้บริการเน็ต 10 GB ด้วยความเร็วสูงสุดที่ดำเนินการได้ หากผิดเงื่อนไขไม่ได้รับเงิน คาดจบมาตรการมีผู้ได้รับสิทธิ์ 20 ล้านเลขหมาย ล่าสุดได้รับสิทธิ์แล้วกว่า 10 ล้านเลขหมาย (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) TPIPP (Bloomberg Consensus 5.35 บาท) เปิดแผนดึงพันธมิตรใน-นอกร่วมทุน 2 แสนล้านบาท ลุยสร้างเมืองต้นแบบอุตสาหกรรม ท่าเรือน้ำลึก-นิคม-โรงไฟฟ้า LNG ขนาด 1700 เมกะวัตต์ ในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ล่าสุดรอหน่วยงานรัฐเห็นชอบ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CKP (Bloomberg Consensus 5.43 บาท) เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มกำลัง รองรับความต้องการใช้ช่วงหน้าร้อนพุ่ง พร้อมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นไม่มีกำหนด ปันผลระหว่างกาล 0.0300 บาท จ่าย 12 พ.ค.นี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(-) SGP (Bloomberg Consensus - บาท) รับผลกระทบโควิด-19 ฉุดปริมาณขายในประเทศช่วงเดือนมีนาคมหด 2 หมื่นตันต่อเดือน หลังศูนย์การค้า-ร้านอาหาร หยุดให้บริการชั่วคราว กดดันผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2563 อาจชะลอตัวกว่าปีก่อน เตรียมทบทวนเป้าหมายการดำเนินงานปีนี้ใหม่คาดได้ข้อสรุปภายในช่วงสัปดาห์นี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) STARK (Bloomberg Consensus - บาท) ประกาศดีลลูกค้ายักษ์ใหญ่ "เชฟรอน-PTTEP" เซ็น 4 สัญญา ให้บริการด้านพนักงาน มูลค่ารวม 4,330 ล้านบาท ระยะเวลา 3-5 ปี เริ่มรับรู้ Q2/2563 นี้ ย้อนรอยหุ้นใหญ่ยื่นอดิสรให้ราคาถูก บิ๊ก STARK ชี้พร้อมปั้นอดิสรโตกระโดดทั้งทางปกติ และการซื้อกิจการ เล็งป้อนพนักงานนิคม-โลจิสติกส์ (ที่มา ทันหุ้น)