'ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ มีระบบที่ดี' WHO ชื่นชมไทย ปราบโคโรนาไวรัส

'ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ มีระบบที่ดี' WHO ชื่นชมไทย ปราบโคโรนาไวรัส

องค์การอนามัยโลก WHO ชื่นชมไทย หลังลดจำนวนผู้ติดเชื้อ มีระบบที่ดี ปราบโคโรนาไวรัส

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. รายงานวานนี้ (14 เม.ย.) ว่า WHO หรือองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ชื่นชมไทยสามารถลดลำดับผู้ติดเชื้อ โดยระบุว่า ไทยมีระบบการดูแลสุขภาพถึงระดับครอบครัว คือ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) กว่า 1,040,000 คน ทำให้สามารถดูแลคนได้อย่างใกล้ชิด นี่คือความภาคภูมิใจของประเทศไทย ซึ่งองค์กรด้านสาธารณสุขระดับโลกรายงานให้คนทั่วโลกรับทราบ ถึงศักยภาพการดูแลสาธารณสุขของคนไทย ซึ่งต้องขอบคุณ อสม. รวมถึงบุคลากรทุกฝ่ายที่ช่วยกัน

ผู้ป่วยสะสมของไทยที่เข้ารักษาแยกตามสังกัด ดังนี้  โรงพยาบาลเอกชนร้อยละ 42.3  โรงเรียนแพทย์ ประมาณร้อยละ 25.8 กรมการแพทย์และกรมควบคุมโรคซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง ประมาณร้อยละ 10 และร้อยละ 11 ตามลำดับ โดยมีผู้ป่วยที่อาการหนักอยู่ใน ICU (ข้อมูล 13 เม.ย.63) จำนวน 48 ราย ซึ่งผู้ป่วยดังกล่าวแบ่งเป็นภาระงานของทางภาครัฐ จำนวน 37 ราย เอกชน จำนวน 11 ราย ภาพรวมของประเทศไทย ทุกหน่วยงานล้วนมีความกล้าหาญในวิชาชีพ พร้อมช่วยกันที่จะทำให้ประชาชนกลับคืนสู่ปกติ
 
โฆษก ศบค. ยืนยันให้ประชาชนสบายใจได้ว่า ขณะนี้มีเตียงเพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วยได้ รวมทั้งการเตรียมพร้อมเครื่องช่วยหายใจเพียงพอทั่วทุกภาค ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานศูนย์ ศบค. เน้นย้ำให้มีการตรวจสอบจำนวนเตียง เครื่องมือ ให้มีความพร้อมและเพียงพอรองรับกับสถานการณ์อยู่เสมอ

สำหรับรายงานผลการปฏิบัติการจากการประกาศเคอร์ฟิวประจำวันที่ 14 เมษายน 63 พบว่า มีประชาชนที่กระทำความผิดออกนอกเคหะสถาน 806 ราย ชุมนุมมั่วสุม 155 ราย ทั้งนี้ สาเหตุส่วนใหญ่ของการชุมนุมมั่วสุม คือ เล่นพนัน ดื่มสุราและยาเสพติด เหล่านี้เป็นสิ่งผิดกฎหมายและผิดจริยธรรม จากรายงานผู้ละเมิดความผิดของแต่ละจังหวัดพบว่า กรุงเทพมหานคร 500 กว่าคดี  ปทุมธานี 325 คดี ภูเก็ต 216 คดี  จึงขอวิงวอนประชาชนอย่ามั่วสุม ซึ่งนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว จะทำให้สุขภาพไม่ดีและเสี่ยงต่อการติดโรคไวรัสโควิด-19 ได้อีกด้วย
 
โฆษก ศบค. ยังย้ำถึงมาตรการการเดินทางเข้า-ออกประเทศของคนไทยว่า ในวันที่ 14 เมษายน 63 จะมีคนไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลี จำนวน 135 ราย ในเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้วจะต้องเข้ากักกันเฝ้าระวังโรคในพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนดทุกกรณี ซึ่งขอให้ผู้ที่เดินทางกลับให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้อื่นด้วย