บิ๊ก‘ประกัน’ไล่เก็บหุ้น ซื้อสะสมรวมเฉียด 100 ล้าน

บิ๊ก‘ประกัน’ไล่เก็บหุ้น  ซื้อสะสมรวมเฉียด 100 ล้าน

ผู้บริหารบริษัทประกันไล่ซื้อหุ้นผ่านตลาดรวมเฉียด 100 ล้านบาท ตระกูล ‘ล่ำซำ - โสภณพนิช’ โดดร่วมวง ขณะที่หุ้นประกันฟื้นตัวราว 27% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

นับแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(13 เม.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแล้ว 21.71% ขณะที่หุ้นกลุ่มประกันเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ยังคง "แข็งแกร่ง" กว่าตลาด โดยปรับตัวลดลงต่ำกว่าที่ 15.38% ส่วนบริษัทผู้นำของกลุ่ม 4 บริษัท ซึ่งมีมูลค่า (Market Cap.) กว่า 2 หมื่นล้านบาท คือ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) และ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) เป็นสองหุ้นที่นำลง โดยราคาหุ้นติดลบไป 28.99% และ 23.05% ตามลำดับ

ขณะที่ บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ (SEG) และบมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) เป็นสองหุ้นที่ช่วยพยุงกลุ่มไว้ โดยราคาหุ้น SEG ติดลบ 6.71% ส่วน TQM เพิ่มขึ้น 6.82%

ทั้งนี้ ผู้บริหารของบริษัทในกลุ่มประกันได้อาศัยจังหวะที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาในทิศทางเดียวกับตลาด เข้าไปซื้อหุ้นบางส่วนเพิ่มเติม โดยจากการสำรวจแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) ของ ก.ล.ต. นับแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่า ผู้บริหารของ BLA เข้าซื้อมากที่สุดรวม 25.08 ล้านบาท โดยหลักเกิดจากการทำรายการของ นายสุนทร อรุณานนท์ชัย ประธานกรรมการตรวจสอบของบริษัท เข้าซื้อไปกว่า 24 ล้านบาท ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 12 บาท

ถัดมาคือผู้บริหารของ บมจ.เมืองไทยประกันภัย (MTI) อย่าง ‘มาดามแป้ง’ นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีก 24.91 ล้านบาท ที่ราคาเฉลี่ย 71.86 บาท

158687110891

ถัดมาคือ กลุ่มผู้บริหารของ TQM ได้แก่ นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายอัญชลิน พรรณนิภา ประธานกรรมการ และนางสาวสมพร อำไพสุทธิพงษ์ กรรมการ เข้าซื้อเป็นมูลค่ารวม 23.76 ล้านบาท ที่ราคาเฉลี่ย 54.38 บาท นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา นางนภัสนันท์ ได้ทำรายการขายหุ้น Big lot ให้กับนักลงทุนสถาบัน โดยไม่ได้เปิดเผยชื่อ จำนวน 5.5 ล้านหุ้น ที่ราคา 70 บาท

ในส่วนของผู้บริหาร BKI อย่าง นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ ได้เข้าซื้อรวมเกือบ 21 ล้านบาท ที่ราคาเฉลี่ย 231.15 บาท นอกจากนี้ ยังมีการทำรายการของ นายสุกิจ จรัญวาศน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.จรัญประกันภัย (CHARAN) เข้าซื้อรวม 8.48 หมื่นบาท ที่ราคาเฉลี่ย 17.31 บาท

ส่วนในกรณีของ SEG พบว่า นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการ ได้รายงานการขายหุ้นออกมารวม 7.2 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 259.2 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยว่าเป็นการขายให้กับใครโดยเฉพาะเจาะจงหรือไม่

ทั้งนี้ ราคาหุ้นในกลุ่มประกันช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นภาพของการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดกระโดดลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 8 ปี เมื่อ 13 มี.ค. 2563 โดยนับจากจุดต่ำสุดจนถึงปัจจุบัน ดัชนีของกลุ่มประกันปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 27%

สำหรับแนวโน้มของ TQM ซึ่งจะเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีที่สุดในกลุ่มประกัน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดว่า จะมีผู้สนใจซื้อกรมธรรม์โควิด-19 ผ่าน TQM เป็นจำนวนมาก ทำให้รายได้ค่านายหน้าจะเพิ่มขึ้นสูง โดยเฉพาะภายหลังวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่ง ครม.ได้ออกมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มข้นขึ้น เช่น ปิดสถานที่เสี่ยงทั่วกรุงเทพ 14 วัน สะท้อนถึงความรุนแรงของการแพร่กระจาย หนุนให้ความต้องการซื้อประกันสูงขึ้น

โดยภาพรวมคาดว่า TQM จะมีรายได้ค่านายหน้าปีนี้เพิ่มขึ้นจากการขายประกันภัยโควิด-19 ประมาณ 26 – 66 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.7 – 4.3% จากจำนวนกรมธรรม์โควิด-19 ราว 540,000 – 1,100,000 กรมธรรม์ มูลค่ากรมธรรม์เฉลี่ย 400 บาทต่อกรมธรรม์ อิงข้อมูล ณ วันที่ 17 มี.ค. บริษัทมียอดขายมากกว่า 4 แสนกรมธรรม์ อัตราค่านายหน้าที่ 12%-15% และอัตรากำไรสุทธิของกรมธรรม์โควิด-19 ที่ 40% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคงที่

ทั้งนี้ ราคาหุ้น TQM ปรับตัวขึ้นและโดดเด่นกว่า SET ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จากกำไรที่คาดว่าจะยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง โดย Bloomberg consensus ประเมินว่ากำไรสุทธิปี 2563 และ 2564 จะยังคงขยายตัว 12% และ 43% ตามลำดับ ราคาเป้าหมายโดย Bloomberg consensus อยู่ที่ 73 บาท